สามพี่น้องตระกูลลีลาปัญญาเลิศ บอส ภูมิภัทร วัย 30 ปี เบส พีรภัทร วัย 21 ปี และ จินนี่ ยศสุดา วัย 20 ปี ที่กำลังโด่งดังในโลกโซเชียลมีเดีย เปิดบ้านให้สัมภาษณ์พิเศษกับ ‘วอยซ์ออนไลน์’ ถึงความรู้สึกที่มีต่อผู้เป็นแม่ ‘คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์’ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย
ในฐานะลูกๆ แม้ทั้งสามจะอดเป็นห่วงไม่ได้กับความท้าทายในศึกเลือกตั้งครั้งสำคัญ แต่พวกเขาก็เอาใจช่วยและพร้อมเป็นกำลังใจให้คุณแม่เสมอ โดยต่างเชื่อว่า “ถึงเวลาของแม่แล้ว” ในการพลิกโฉมสังคมไทยอย่างมืออาชีพ
อยากให้คุณแม่เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ?
บอส: ถ้าเอาตรงๆ เลยก็ไม่ค่อยอยากครับ การเป็นนายกฯ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเสียสละมากกว่าที่เห็น และอุปสรรคมากมาย เป็นห่วงหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องสุขภาพ เพราะแม่เป็นคนบ้างานอยู่แล้ว ทำอะไรเต็มที่ไม่ค่อยนึกถึงตัวเอง อาจทำให้ละเลยการดูแลสุขภาพไปบ้าง และยังห่วงอีกหลายๆ อย่าง ‘การเมืองไทยมีอะไรให้น่าห่วงเยอะ’ แต่ส่วนตัวก็คิดว่าคุณแม่พร้อมมาตั้งนานแล้ว แต่ว่าสถานการณ์หรือช่วงเวลาอาจจะยังไม่ใช่ ตอนนี้ก็เพิ่งได้มีโอกาส
เบส: ถ้าตอบในฐานะลูก ก็มีทั้งอยากและไม่อยาก ถ้าจะบอกว่าไม่อยากก็คงเห็นแก่ตัวไปหน่อย เพราะหน้าที่นี้ทั้งเหนื่อย แต่เรารู้ว่าแม่เป็นคนเก่งและมีความสามารถในการพัฒนาประเทศ ก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะรั้งไว้
จินนี่: เอาจริงๆ ก็พูดยาก คำถามนี้มีคนถามบ่อย แต่ถ้าตอบในฐานะลูก ก็กังวลเหมือนกัน เพราะตำแหน่งนี้ยากมาก และกดดัน เป็นห่วงคุณแม่เพราะต้องเหนื่อยมากๆ ขณะเดียวกันก็คิดว่า อยากให้เป็น เพราะถ้าแม่มีโอกาสไปยืนตรงนั้น คิดว่าแม่จะทำได้ดีและเป็นนายกฯ ที่ดี
3 ข้อดีของคุณแม่คืออะไรบ้าง ?
บอส: คุณแม่เป็นคนที่ใจมาก คือการเป็นคนที่ไม่กลัวอะไรเลย และเป็นคนที่มีน้ำใจมากๆ แม่ถูกเลี้ยงดูมากับความเป็นนักเลงด้วย เลยทำให้เป็นผู้หญิงลุยๆ เชื่อมกับข้อที่สองก็คือ มีความลุย ความอึด ซึ่งคิดว่าคนที่เคยทำงานด้วยก็น่าจะทราบดีว่าอึดขนาดไหน เรียกได้ว่าเหนื่อยกันทั้งทีมครับ ส่วนข้อสุดท้าย คิดว่าคุณแม่เป็นคนที่พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด เขาจะคิดเสมอว่าการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งสะท้อนกับตัวตนของเขาคือมองว่าเราสามารถพัฒนาได้อีก
เบส: แม่เป็นคนเป๊ะ เป็นคนใส่ใจคน แม้ตัวเองจะทำงานเหนื่อย กลับมาตี 2-3 ก็ยังเดินมาหาลูก เราก็คิดในใจว่า ทำได้ยังไง เหนื่อยขนาดนี้ทำไมไม่พัก และสุดท้ายคิดว่าแม่เป็นคนทำงานเป็น มีระบบในการทำงานและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่สำคัญไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง จริงๆ แล้วคนอายุเท่านี้ควรเที่ยวหรือพักผ่อน แต่คุณแม่ยังขยันหาความรู้ใหม่ๆ ให้ทันโลกอยู่เสมอ รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นลูกแม่ เวลาตามคุณแม่ไป ได้เห็นภาพที่คนร้องไห้ เข้ามากอดแล้วบอกว่าช่วยหน่อย ก็รู้สึกว่าแม่เป็นที่ยอมรับของสังคมมากๆ
จินนี่: แม่เป็นคนตั้งใจทำงานค่ะ และใส่ใจในทุกอย่างที่เขาทำ อย่างเวลาที่แม่ไปหาเสียง กลับมาก็ชอบเล่าให้ฟังว่าเจอพี่ๆ แม่ค้า เป็นแบบนี้ๆ หนูสัมผัสได้ว่าเขาเล่ามาจากใจ เขาใส่ใจและอยากทำตรงนี้ อยากช่วยพัฒนาตรงนี้จริงๆ ขณะเดียวกันเวลาคุณแม่ทำงาน ก็จะทำงานมีระบบมาก ในวันๆ หนึ่งหน้าที่เขาล้นมือมาก แต่สุดท้ายก็สามารถจัดการทุกอย่างได้ ข้อสุดท้ายหนูคิดว่า แม้ภายนอกแม่อาจจะดูดุๆ แต่ความจริงคุณแม่พยายามทำความเข้าใจกับคนอื่นอยู่ อย่างกับลูกๆ เอง ถึงแม่จะทำงานหนัก ขณะที่เรามีเรื่องเครียด ต่อให้ไม่ต้องพูดอะไร คุณแม่ก็สามารถสัมผัสและรับรู้ได้ค่ะ
ที่ผ่านมาได้ติดตามคุณแม่ลงพื้นที่หาเสียง พวกคุณได้เห็นอะไรบ้าง ?
บอส: นอกจากเรื่องความอึดแล้ว ก็เรื่องความเป็นกันเอง คุณแม่ไม่ค่อยถือตัว และเขามองเห็นตัวเองในหลายๆ คน เนื่องจากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาทำให้เขาได้เห็นชีวิตในหลายๆ รูปแบบ จึงทำให้สัมผัสกับคนทุกลักษณะ ที่มีพื้นฐานแตกต่างกัน ซึ่งความเป็นกันเองนี้วัดได้จากการไปลงพื้นที่ทุกครั้ง ทุกคนก็จะเรียกแม่ว่า ‘เจ๊หน่อย’ ผมมองว่าที่ทุกคนเรียกเพราะรู้สึกสนิทใจ และคิดว่าเขาก็คงเห็นความเป็นผู้นำด้วย ซึ่งไม่ใช่ผู้นำแบบบ้าอำนาจ แต่มีความเกรงขาม ส่วนภาพประทับใจเมื่อเห็นคุณแม่ไปหาเสียง ก็คือจังหวะที่คนเข้ามากอดคุณแม่ เราได้เห็นสายตาของแม่และประชาชนที่เข้ามากอด คือเขามาด้วยใจและแม่ก็รับเขาด้วยใจ
จินนี่: รู้สึกตกใจค่ะ ไม่คิดว่าจะมีคนมาสนับสนุนแม่เราเยอะขนาดนี้ มีโอกาสได้ไปดูคุณแม่ปราศรัยใหญ่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้เห็นคนรุม และดึงตัวแม่ ตอนแรกก็ตกใจ แต่พอไปถามแม่ว่าเป็นอย่างนี้ทุกที่ไหม คุณแม่ก็บอกว่าใช่ ก็เลยรู้สึกดีใจที่แม่ได้รับการสนับสนุนเยอะ
คุณแม่เป็นคนบ้างาน ?
บอส: ผมคิดว่าความอึดอยู่ในสายเลือด ปกติแม่เป็นคนนอนน้อยอยู่แล้ว ปกตินอนประมาณตี 2 ตื่น 8 โมงเช้า แต่คิดว่าช่วงนี้น่าจะเหลือเวลานอนเพียงแค่ 3-4 ชั่วโมงต่อวัน แต่คิดว่าการที่แม่มีพลังเหลือ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เหนื่อย แต่เขาคิดว่านี่เป็นสิ่งที่เขาต้องทำ ทำเพื่อประชาชน ตรงนี้เป็นแรงขับเคลื่อนเขามาตลอด ฉะนั้นเขาเลยไม่เคยเอาความเหนื่อยมาเป็นข้ออ้างในการทำอะไร
เบส: แม่เป็นคนทำงานเยอะมาก Workaholic วิธีการผ่อนคลายของเขาคือการทำงาน เลยไม่ค่อยมีเวลาดูแลร่างกายตัวเอง ค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ ไม่ว่าแม่จะยุ่งแค่ไหน ก็มีเวลาให้ลูกเสมอ มีอยู่วันหนึ่งคุณแม่ต้องเตรียมตัวไปดีเบต กำลังเตรียมข้อมูลและประเด็นต่างๆ แต่ว่าก็แบ่งเวลามากินข้าวกับลูกก่อนแม้ว่างานยังไม่เสร็จ หรือวันก่อนแม่ไปปราศรัยแถวนนทบุรี กลับมาหลังจากปราศรัยก็รีบมากินข้าวกับผม
ความพิเศษอะไรบ้างที่คุณแม่ ส่งผ่านมาถึงตัวเรา?
บอส: เรื่องของใจและความติดดิน ไม่ถือตัว ซึ่งจริงๆ แล้วคุณแม่ไม่ได้ปลูกฝังด้วยซ้ำ แต่ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งคิดว่าสิ่งๆ นี้เป็นวิธีการที่ทำให้คนรอบข้างรู้สึกอบอุ่น
เบส: ความเป็นคนห้าวๆ เหมือนกัน เป็นคนกล้า เวลาคุยกับใครก็ไม่ค่อยกลัว เป็นคนพูดตรงไม่มีอ้อมค้อม ที่สำคัญมีความกวนเหมือนกันด้วยครับ อย่างแม่ทำงานอยู่ แล้วเบสกำลังออกไปเที่ยว แม่บอกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นหน้าเลยนะ ก็เลยตอบกลับไปว่า เบสก็ไม่เห็นหน้าแม่เหมือนกัน ต่างคนก็ต่างหัวเราะครับ
จินนี่: หนูเห็นแม่เป็นไอดอลคนหนึ่ง เนื่องจากความเป็นผู้หญิงเหมือนกัน แม่จะสอนเสมอว่าเป็นผู้หญิงให้แข็งนอกอ่อนใน เราต้องไม่อ่อนแอ และไม่ให้คนอื่นมาเอาเปรียบ ขณะเดียวกันต้องมีจิตใจโอบอ้อมอารี
จินนี่บอกด้วยว่า สิ่งที่เธอต้องการมีเหมือนแม่ ก็คือเรื่องการจัดการกับอารมณ์ โดยเธอเล่าว่า แม่เป็นคนจัดการกับอารมณ์ได้ดีมาก ถ้าเป็นหนูเวลาเจอเรื่องเครียดก็จะดาวน์ ไม่มีอารมณ์ทำอย่างอื่น แต่แม่พยายามสอนเสมอว่าให้รู้จักจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง รู้จักรับผิดชอบ คิดและทำทีละอย่าง ซึ่งตอนนี้หนูก็กำลังพยายามทำ โดยมีแม่เป็นตัวอย่างอยู่ค่ะ
หนูรู้สึกภูมิใจในตัวแม่มากค่ะ คุณแม่เป็นคนทำงานเก่งตั้งแต่ตอนเด็กๆ ยิ่งเรื่องงานการเมืองเมื่อได้เห็นแม่อยู่ในทีวี ก็เพิ่งมาสังเกตุทีหลังว่าไม่ค่อยมีผู้หญิงเลย เวลายืนถ่ายรูปกันก็จะเห็นว่า แม่เราเป็นผู้หญิงคนเดียว หนูเลยรู้สึกว่า ถึงแม่จะเป็นผู้หญิงแต่ก็สามารถทำตรงนี้ได้ดีค่ะ
ที่ผ่านมาจินนี่ได้รับความสนใจเยอะมาก คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ?
บอส: ส่วนตัวไม่ได้คิดห่วงอะไรน้อง แค่กลัวน้องกดดันและเครียดมากกว่า เพราะอยู่ๆ ก็ดังชั่วข้ามคืน เพราะว่าก็เห็นน้องตั้งแต่เด็ก
เบส: คิดไม่ออกเหมือนกันว่าทำไมคนถึงชอบน้อง อาจจะเป็นเพราะว่าจินนี่ขาว แต่เชื่อว่าน้องมีดีมากกว่าหน้าตาแน่นอน
จินนี่: มีรู้สึกกดดันบ้างเป็นบ้างครั้ง เวลาไปไหนมาไหนก็มีคนเริ่มจำได้บ้าง แต่แค่รู้สึกว่าต้องทำตัวดีๆ หน่อย
โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง มีอะไรอยากบอกแม่บ้าง ?
จินนี่: ก็อยากบอกแม่ว่าสู้ๆ ค่ะ ทุกคนภูมิใจในตัวแม่มากๆ เชื่อว่าแม่ทำได้
เบส: โค้งสุดท้าย ก็สู้ๆ ครับ แม่ทำได้อยู่แล้ว แม่เป็นคนเก่ง ไม่ค่อยห่วงอะไร
บอส: อยากให้แม่เป็นห่วงสุขภาพบ้างครับ รู้ว่าไม่ได้เหนื่อย แต่บางทีใจไป ร่างกายอาจจะไม่ไปด้วย บอสเชื่อว่าแม่ทำได้อยู่แล้ว มันถึงเวลาของแม่มานานแล้ว แม่พร้อมแล้ว แต่เพิ่งได้มีโอกาส ยังไงคุณแม่ก็ยืนหนึ่งครับ
ทั้ง 3 คนบอกทิ้งท้ายว่า คุณแม่มักสอนเสมอให้เข้มแข็ง อย่าอ่อนแอ และรักกันในหมู่พี่น้อง เพราะเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องมีกันและกันตลอดไป