ไม่พบผลการค้นหา
"พล.อ.ประยุทธ์" พอใจไทยเป็นที่รู้จักทั่วโลก อย่าให้ประเทศไทยกลับไปเป็นเหมือนเดิม ตั้งเป้าให้ 5 ปีข้างหน้าเป็น 5 ปีแห่งอนาคต พร้อมสนับสนุนงานด้านวิทยาศาสตร์ ปัดตอบกรณีประชาชนออกมาต่อต้านการเดินคารวะแผ่นดินของพรรครวมพลังประชาชาติไทย

นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่จำนวน 500 คน ร่วมจัดกิจกรรม “นักวิทย์รุ่นใหม่ นำไทยไปด้วยกัน ”เพื่อยื่นสมุดปกขาวการวิจัยขั้นแนวหน้า ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความพร้อมนำศักยภาพนักวิทย์รุ่นใหม่ กำหนดอนาคตไทย ก้าวสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีตัวแทนนักวิทย์ รุ่นใหม่ 5 คน ประกอบไปด้วย ดร.ข้าว ต้นสมบูรณ์, ดร.มนัสชัย คุณาเศรษฐ, ดร.วศะพร จันทร์พุฒ, นพ.ประสิทธิ์ เผ่าทองคำ, และ ดร.พินิจ กิจขุนทด นำเสนอรายละเอียดของสมุดปกขาว 

โดยระบุว่า การขับเคลื่อนไทยเพื่อมุ่งสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ภายในระยะเวลา 20 ปี นั้น เป็นโจทย์ใหญ่ของประเทศ เนื่องจากต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีและนวัตกรรม การแข่งขันอย่างรุนแรงในเวทีโลก และต้องเตรียมความพร้อมประเทศเข้าสู่สังคมสูงวัย ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจึงเป็นสิ่งสำคัญ และการจะยกระดับประเทศที่สู่ประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมตามนโยบายประเทศไทย 4.0 การวิจัยขั้นแนวหน้าที่จะทะลุทะลวงไปสู่การเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมประเทศ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่รัฐบาลต้องสนับสนุนอย่างจริงจัง 

แม้ว่าไทยจะมีความพร้อมหลายๆ ด้าน แต่ยังไม่มีการสนับสนุนนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่เท่าที่ควร ทำให้เสียโอกาสนำนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่มาพัฒนาประเทศ หากภาครัฐมีการสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากความรู้ ความสามารถของนักวิทยาศาสตร์ไทยอย่างจริงจัง จะทำให้ประเทศไทยก้าวกระโดดสู่ระดับโลกได้อย่างแน่นอน การรวมตัวของนักวิทย์รุ่นใหม่ ในวันนี้ จึงเป็นเสมือนการมารวมพลังแสดงความพร้อมที่จะใช้ศักยภาพของแต่ละคนที่เชี่ยวชาญแต่ละสาขามากำหนดอนาคตประเทศ ผ่านการเสนอสมุดปกขาวการวิจัยขั้นแนวหน้า หรือ Frontier Research พร้อมได้วางกลยุทธ์กำหนดโจทย์วิจัยให้กับประเทศ 4 ด้าน ประกอบด้วย 1. อาหารเพื่ออนาคต 2. การแพทย์และสาธารณสุขขั้นแนวหน้า 3. พลังงานแห่งอนาคต และ 4. การป้องกันภัยคุกคาม/รับมือความเสี่ยง และสร้างโอกาสในอนาคต

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ ที่นำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยการขับเคลื่อนผ่านนวัตกรรม ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนด้านงบประมาณ เพื่อทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีรายได้สูง และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทั้ง 6 ด้าน 

ซึ่งการสร้างความเท่าเทียม รัฐบาลเน้นการเท่าเทียมด้านโอกาส ไม่ใช่เพียงรายได้ ซึ่งจะทำได้ต้องผ่านการใช้กฎหมาย ซึ่งหากใครไม่ได้ทำผิดก็ไม่จำเป็นต้องกลัว ซึ่งกฎหมายใหม่ที่ออกมาได้เน้นไม่ให้สร้างภาระกับประชาชน ส่วนการควบคุมประชาชน การละเมิดสิทธิเสรีภาพ ส่วนตัวเข้าใจคนพวกนั้นที่่ออกมากล่าวอ้าง เพราะเมื่อเสียก็ไม่ชอบ เมื่อได้ก็จะชอบ เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ 

พล.อ.ประยุทธ์ ยังยืนยันว่า ประเทศไทยขณะนี้เป็นที่รู้จักของทั่วโลกแล้ว เพราะเป็นประเทศที่มีความสวยงาม อาหารอร่อย ราคาไม่แพง มีรอยยิ้มและความเป็นมิตร อย่าให้ประเทศไทยกลับไปเป็นเหมือนเดิม ทั้งนี้ตั้งเป้าให้ 5 ปีข้างหน้าเป็น 5 ปีแห่งอนาคต

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความวุ่นวายจะตามมาหรือไม่ หลังมีคนออกมาต่อต้านการเดินหาสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ยกนิ้วชี้มาไว้ที่ปาก ส่งสัญญาณว่า "ไม่พูด"