ไม่พบผลการค้นหา
บทสนทนาและสื่อลามกอนาจารเด็ก ที่ส่งต่อกันทางข้อความในเฟซบุ๊ก เป็นหลักฐานมัดตัวเจ้าหน้าที่ชาวกัมพูชา 32 ราย ซึ่งทำงานให้กับสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงพนมเปญ

สำนักข่าวรอยเตอร์และพนมเปญโพสต์รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวในสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกัมพูชา อย่างน้อย 4 ราย ยืนยันตรงกันว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยและฝ่ายธุรการของสถานทูต 32 ราย ถูกไล่ออกจากตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และถูกสอบสวนในข้อหาครอบครองและส่งต่อสื่ีอลามกอนาจารเด็ก ซึ่งผิดทั้งกฎระเบียบสถานทูตและกฎหมายกัมพูชา

รอยเตอร์รายงานว่าภรรยาของเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ซึ่งถูกไล่ออกเป็นผู้แจ้งเบาะแสแก่ทางสถานทูต และเมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ามีการตั้งกลุ่มสนทนาผ่านโปรแกรมแมสเซนเจอร์ของเฟซบุ๊ก ซึ่งไม่ได้เป็นช่องทางสื่อสารอย่างเป็นทางการของสถานทูต และพบหลักฐานว่ามีการส่งต่อสื่อลามกอนาจารเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี เกิดขึ้นจริง

ขณะที่ 'เดวิด โจซาร์' โฆษกของสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกัมพูชาให้สัมภาษณ์ว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ทางสถานทูตส่งหลักฐานและข้อมูลส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ซึ่งถูกไล่ออกให้แก่สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางแห่งชาติสหรัฐฯ (FBI) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่าจะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวหรือไม่ ขณะที่ สำนักงานตำรวจกัมพูชายังไม่ออกแถลงการณ์ใดๆ ต่อกรณีที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ รายงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา บ่งชี้ว่าสถิติการก่ออาชญากรรมทางเพศแก่เยาวชนในกัมพูชามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเกี่ยวพันกับผู้ก่อเหตุชาวต่างชาติ ซึ่งเดินทางมายังกัมพูชาและประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อหาประโยชน์จากธุรกิจค้าประเวณีเด็ก และการขาดระบบตรวจสอบหรือกำกับดูแลสื่อออนไลน์ในภูมิภาค ซึ่งไม่มีระบบป้องกันเยาวชนเข้าใช้งานสื่อต่างๆ และเด็กจำนวนมากถูกล่อลวงผ่านการใช้สื่อออนไลน์สนทนากับผู้ก่อเหตุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: