ไม่พบผลการค้นหา
พระราชพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน มาเคิร์ล จะกระตุ้นเศรษฐกิจของอังกฤษได้ โดยประเมินว่าอังกฤษจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากงานนี้ถึง 500 ล้านปอนด์ จากการท่องเที่ยวและการจับจ่ายในหมู่ประชาชน แต่ในอีกด้าน คนไร้บ้านอาจถูกไล่ที่เพื่อเตรียมพระราชพิธีสำคัญนี้

งานเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รี พระราชนัดดาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และรัชทายาทลำดับที่ 5 ของราชวงศ์วินด์เซอร์ จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคมนี้ ที่พระราชวังวินด์เซอร์ สถานที่ที่เป็นที่พำนักของกษัตริย์และราชินีอังกฤษมาเกือบ 1,000 ปี โดย Brand Finance บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจในอังกฤษประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาร่วมเฉลิมฉลองงานนี้อย่างคับคั่ง เนื่องจากในงานเสกสมรสระหว่างเจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทลำดับ 2 และดัชเชสแคทเธอรีน เมื่อเดือนเมษายนปี 2011 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าอังกฤษเพิ่มขึ้นถึง 350,000 คนเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 

Brand Finance ประเมินว่ารัฐบาลจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 200 ล้านปอนด์ หรือ 8,700 ล้านบาท ส่วนอีก 150 ล้านปอนด์ หรือ 6,500 ล้านบาทมาจากการจับจ่ายของประชาชนในประเทศเพื่อการเฉลิมฉลองวาระสำคัญของราชวงศ์ และอีก 50 ล้านปอนด์ หรือ 2,100 ล้านบาท มาจากการซื้อเสื้อยืด หมวก และสินค้าที่ระลึกอื่นๆ นอกจากนี้ พระราชพิธีเสกสมรสยังเป็นเสมือนการโฆษณาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอังกฤษทางอ้อม ซึ่งคิดเป็นมูลค่าอีกประมาณ 100 ล้านปอนด์ หรือ 4,300 ล้านบาท

000_UZ7KH.jpg

เซนต์จอร์จแชเพลในพระราชวังวินด์เซอร์ หนึ่งในอาคารหลักที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเยี่ยมชม ค่าตั๋วเข้าชมพระราชวังวินด์เซอร์ แบบครอบครัว อยู่ที่คนละ 21.20 ปอนด์ หรือ 924 บาท

อย่างไรก็ตาม ในอีกด้าน หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียนของอังกฤษ รายงานว่านายไซมอน ดัดลีย์ ประธานสภาเขตวินด์เซอร์และเมเดนเฮด ซึ่งเป็นเขตที่ตั้งของพระราชวังวินด์เซอร์ ได้ส่งหนังสือไปยังตำรวจในท้องที่ ขอให้ใช้มาตรการทางกฎหมายที่เด็ดขาด ในการจัดการกับคนไร้บ้านในบริเวณรอบพระราชวังก่อนที่จะถึงวันพระราชพิธี โดยจดหมายดังกล่าวระบุว่าตำรวจต้องจัดการ "การขอทานที่คุกคาม" และ "ถุงเศษซาก" ที่เกลื่อนกลาดอยู่บนถนน ซึ่งคนเหล่านี้จำนวนมากไม่ได้เป็นคนไร้บ้านจริงๆ แต่เลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่บนถนน ไม่รับสวัสดิการหรือความช่วยเหลือใดๆจากภาครัฐ และกลายเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของคนในพื้นที่ และต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อคำนึงถึงความสำคัญของพระราชวังวินด์เซอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงพระราชพิธีเสกสมรสที่กำลังจะมาถึงในเดือนพฤษภาคมนี้

ก่อนหน้านี้ นายดัดลีย์เคยทวีตหลายครั้งว่าเขตวินด์เซอร์ของเขา ซึ่งเป็นเมืองที่สวยงามริมฝั่งแม่น้ำเธมส์ และเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญอย่างพระราชวังวินด์เซอร์ โรงเรียนอีตัน และสนามแข่งม้าเอสค็อตอันโด่งดัง ต้องเผชิญกับการระบาดของพวกเร่ร่อนและการนอนระเกะระกะ และชาวเมืองรวมถึงนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลกันมาเยี่ยมชมที่นี่ปีละกว่า 6 ล้านคน ไม่ต้องการทนกับเรื่องนี้อีกต่อไป