อาชญากรรม
ไทยวอนนักท่องเที่ยวต่างชาติร่วมต้าน 'ค้ามนุษย์'
สำนักข่าวรอยเตอร์/เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ รายงานว่ารัฐบาลไทยและภาคเอกชน ร่วมมือกันเผยแพร่สื่อรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ในประเทศไทย โดยพุ่งเป้าที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมายังไทย ให้ตระหนักถึงอันตรายและผลกระทบของการสนับสนุนธุรกิจหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการค้าประเวณีหรือการใช้แรงงานบังคับในอุตสาหกรรมที่สุ่มเสี่ยงอันตราย
การรณรงค์ให้ชาวต่างชาติตระหนักถึงปัญหาการค้ามนุษย์ในไทยเริ่มขึ้นตั้งแต่อยู่บนเครื่องบินของการบินไทย ซึ่งจะมีการนำเสนอวิดีโอต่อต้านการค้ามนุษย์ และระบุโทษทางกฎหมายของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ตลอดจนการระบุเบอร์โทรศัพท์สายด่วนสำหรับแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ในกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพบเห็นกิจกรรมที่น่าสงสัยหรือเข้าข่ายการค้ามนุษย์
สื่อต่างประเทศรายงานว่าไทยเป็นประเทศที่ติดอยู่ในกลุ่มเฝ้าระวัง หรือ Tier-2 ในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ที่จัดทำโดยกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว ทำให้รัฐบาลไทยพยายามผลักดันและหาแนวทางแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ภายในประเทศ ซึ่งนโยบายหนึ่งคือการขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเลิกส่งเสริมการค้ามนุษย์หรือการละเมิดสิทธิในธุรกิจทุกรูปแบบ
"ภาครัฐไม่สามารถแก้ปัญหาได้เพียงลำพัง"
พลโทวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า ทุกความพยายามของรัฐบาลเป็นก้าวที่สำคัญ และทุกฝ่ายกำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ จึงหวังว่าสถานการณ์ในประเทศไทยจะดีขึ้น จนเป็นที่รับรู้และยอมรับของนานาชาติ
ขณะที่เมลินา เอ็นลุนด์ ผู้อำนวยการองค์กรระหว่างประเทศ A21 ซึ่งเคลืื่อนไหวต่อต้านการค้ามนุษย์ และทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่่ผ่านมา สนับสนุนการรณรงค์ดังกล่าว โดยระบุว่า รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ได้เพียงลำพัง แต่ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยวจะต้องให้ความร่วมมือด้วย
ที่ผ่านมา A21 จัดฝึกอบรมพนักงานและให้ความรู้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมและที่พักในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นแหล่งขึ้นชื่อด้านธุรกิจสีเทาและการค้าบริการ โดย A21 หวังว่าพนักงานและผู้ประกอบการภาคเอกชนจะช่วยกันสอดส่องและแจ้งเบาะแสการค้ามนุษย์แก่เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบได้
ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ ANN/เดอะสเตรทส์ไทม์ส รายงานว่าธุรกิจค้าประเวณีในไทยมีการบังคับ-หลอกลวงเยาวชนด้วย โดยอ้างอิงขบวนค้ามนุษย์และค้าประเวณีเด็กซึ่งเกิดขึ้นที่บ้านน้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน และถูกสื่อเปิดโปงเมื่อปีที่แล้ว เป็นคดีที่พัวพันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและข้าราชการ
เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ศาลไทยตัดสินพิพากษาลงโทษจำคุกผู้เกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์และค้าประเวณีที่บ้านน้ำเพียงดินทั้งหมดตั้งแต่ 8-176 ปี
Photo by Maru Lombardo on Unsplash
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
