ไม่พบผลการค้นหา
'ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ' ไม่วิตก 'สามมิตร' ดูด นปช.อีสาน ย้ำ นปช.ผนึกกันด้วยอุดมการณ์ ขณะที่ศาลทหารเลื่อนสอบคำให้การคดีปราบโกงของ 19 แกนนำไป 21 กันยายน

ที่ศาลทหารกรุงเทพ อัยการศาลทหาร นัดสอบคำให้การ 19 แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในคดีฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 7 / 2557 ห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป จากกรณีแถลงข่าวเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2559 ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ได้เบิกตัวนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยนายจตุพร มีสีหน้ายิ้มแย้ม และทักทายผู้ที่มาให้กำลังใจก่อนเข้าไปในศาล 

โดยวันนี้ (17 ก.ค.) มีแกนนำ นปช. มาเพียง 18 คน ขาดนายอารี ไกรนรา จำเลยที่ 15 ที่ป่วยกระทันหัน ไม่สามารถเดินทางมาศาล โดยส่งทนายความมาขอเลื่อนนัด และศาลได้พิจารณาแล้ว จึงเลื่อนนัดสอบคำให้การทั้งหมด เป็นวันที่ 21 ก.ย.61

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข่าวกลุ่มสามมิตรเดินสายและนัดพบปะ นปช.ภาคอีสาน ว่า ไม่วิตกกังวลและเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของ นปช.ทุกคนที่ได้ร่วมต่อสู้ด้วยกันมา ส่วนจะใครจะพบปะกลุ่มสามมิตร ถือว่าเป็นสิทธิและมีเสรีภาพที่จะทำได้ เพราะ นปช.ผนึกกันด้วยอุดมการณ์ ไม่ได้อยู่ด้วยคำสั่งและแกนนำไม่ได้เป็นผู้บังคับบัญชาสมาชิก ซึ่งแต่ละคนมีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะตัดสินใจ โดยหากการพูดคุยกับกลุ่มสามมิตรเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองถือเป็นเรื่องที่ดี 

ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่าอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย บางส่วนจะสนับสนุนกลุ่มสามมิตร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ต้องมองให้รอบด้านและดูสัดส่วนมาผู้ที่ถูกดูดออกจากพรรคกับผู้ที่เสนอตัวเข้ามาร่วมพรรคนั้น ส่วนไหนมากกว่ากันแต่ขณะนี้ มีบุคคลหน้าใหม่ เสนอตัวมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยมากกว่า ที่ถูกดูดออกไป 3 ถึง 4 เท่าตัว ซึ่งมีนัยสำคัญทางการเมือง พร้อมยืนยันว่า การที่อดีต ส.ส.จะย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ มีโรดแมปและกระแสการสืบทอดอำนาจของรัฐบาล คสช. 

อย่างไรก็ตาม นายณัฐวุฒิ ยังเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของ อดีต ส.ส.และสมาชิกของพรรค ซึ่งพฤติกรรมต่างๆทั้งการ ครม.สัญจรของรัฐบาล ว่ามีนัยแอบแฝงหรือไม่นั้น ประชาชนจะใช้วิจารณญาณและทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนจะตัดสิน และหากการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและพัฒนาการประชาธิปไตยไทยด้วย 

ส่วนกรณีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” อดีตแกนนำ นปช.และประธานอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.) ที่มีข่าวว่าจะร่วมงานกับกลุ่มสามมิตรนั้น นายณัฐวุฒิ ระบุว่า นายสุภรณ์ ได้ประกาศและสาบานต่ออนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ว่าจะวางมือและยุติบทบาททางการเมืองทุกอย่าง ตั้งแต่หลังการรัฐประหารปี 2557 แล้ว ส่วนการจะหวนกลับมาสู่เส้นทางการเมืองหรือตัดสินใจอย่างไร ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล ซึ่งประชาชนย่อมพิจารณาได้อยู่แล้ว

สำหรับแกนนำ นปช. ทั้ง 19 คนที่ศาลทหาร นัดสอบคำให้การวันนี้ (17 ก.ค.) นอกจากนายอารี แล้ว ประกอบด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ , นางธิดา โตจิราการ , นพ.เหวง โตจิราการ , นายยงยุทธ ติยะไพรัช , นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ , นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ , นายก่อแก้ว พิกุลทอง , นายวีระกานต์ มุสิกพงษ์ , นายสมหวัง อัสราษี , นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ , นายเกริกมนตรี รุจโสตถิรพัฒน์ , นายสมชาย ใจมุ่ง , นายพรศักดิ์ ศรีละมุล , นายนิสิต สินธุไพร , นายยศวริศ ชูกล่อม , นายศักดิ์ระพี พรหมชาติ และ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ