สำนักผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ( Director of National Intelligence - DNI) เผยแพร่รายงานการสอบสวนกรณีการเสียชีวิตของ จามาล คาชอกกี (Jamal Khashoggi) ผู้สื่อข่าวชาวซาอุฯ ของสำนักข่าววอชิงตันโพสต์ ซึ่งพบเป็นศพเสียชีวิตหลังเข้าไปยังสถานกงสุลซาอุดิอาระเบีย ประจำนครอิสตันบูลของตุรกี เมื่อปี 2561 โดยรายงานของรัฐบาลวอชิงตันยืนยันว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิล ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงเป็นผู้ออกคำสั่งสังหาร จามาล คาชอกกี
รายงานความยาว 4 หน้ากระดาษของ DNI ระบุว่า "หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ประเมินว่ามกุฎราชกุมารซาอุดิอาระเบีย ทรงเป็นผู้อนุมัติปฏิบัติการในอิสตันบูล เพื่อจับกุมหรือสังหาร จามาล คาชอกกี นักข่าวชาวซาอุฯ โดยนับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา เจ้าชายบิลซัลมาน ทรงมีพระราชอำนาจเด็ดขาดในการควบคุมหน่วยงานความมั่นคงของซาอุฯ จึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่ซาอุฯ จะกระทำการใดๆ โดยปราศจากคำสั่งโดยตรงจากพระองค์" นอกจากนี้ DNI ยังชี้ว่า รูปแบบของการสังหารนั้นสอดคล้องกับรูปแบบของหน่วยปฏิบัติการภายใต้การบัญชาการของเจ้าชายมักใช้ในการปิดปากผู้ที่เป็นฝ่ายตรงข้าม
การเผยรายงานฉบับนี้แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไบเดนละทิ้งจุดยืนในอดีตของประธานาธิบดีทรัมป์ และยังแสดงความตั้งใจที่จะท้าทายซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นพันธมิตรผู้ใกล้ชิดในตะวันออกกลาง โดยรัฐบาลไบเดนยังได้ออกคำคว่ำบาตรพลเมืองซาอุฯ 76 คน ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารนี้ โดยผู้ที่ถูกคว่ำบาตรจะห้ามเดินทางเข้าสหรัฐฯ และไม่สามารทำธุรกรรมร่วมกับเอกชนหรือชาวอเมริกันได้ แต่อย่างไรก็ดี คำสั่งดังคว่ำบาตรดังกล่าว วอชิงตันได้ละเว้นเจ้าชายมกุฎราชกุมาร ด้วยเหตุผลหวั่นเกรงกระทบด้านการทูตที่สหรัฐฯ ยังต้องพึ่งพาซาอุดิอาระเบียทั้งในแง่ทรัพยากรน้ำมัน และการจัดการปัญหาอิหร่าน
อย่างไรก็ดี รัฐบาลริยาดได้ออกคำแถลงโดยยืนยันเหตุผลเดิมตลอดว่าเรื่องนี้ เจ้าชายบิลซัลมานทรงไม่เกี่ยวข้องด้วย โดยย้ำว่าการตายของคาชอกกีเป็นอาชญกรรมร้ายแรงที่กระทำโดย "พวกนอกแถว" ที่แหกคำสั่ง
ด้านแอนโทนี่ บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ทวีตข้อความว่า "การสังหารจามาล คาชอกกี นักข่าวซึ่งยังเป็นผู้มีถิ่นพำนักถาวรในสหรัฐฯ เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้โลกตะลึง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราจะมีนโยบายระดับโลกฉบับใหม่ที่ถูกตั้งชื่อตามเขา เพื่อกำหนดข้อจำกัดด้านวีซ่าาสำหรับผู้ที่มีส่วนร่วมในการโจมตีนักข่าวหรือนักเคลื่อนไหวนอกอาณาเขต"
ก่อนหน้าเป็นนักข่าวประจำเดอะวอชิงตันโพสต์ จามาล คาชอกกี เคยเป็นที่ปรึกษาราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย ก่อนจะถูกปลดออกจากคณะที่ปรึกษาเมื่อเจ้าชายโมฮัมเหม็ดขึ้นมาเป็นมกุฏราชกุมาร จากนั้นเขาได้เขียนข่าวและบทความเกี่ยวกับซาอุดิอาระเบียให้กับสำนักข่าวระดับโลกหลายแห่ง โดยเฉพาะการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายต่างๆ ของเจ้าชายมกุฎราชกุมาร ซึ่งอาจทำให้พระองค์ทรงกริ้ว โดยคาชอกกีระบุว่า นโยบาย 'ปฏิรูป' ประเทศให้ทันสมัยขึ้นของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ว่าเป็นเพียงนโยบายที่พระองค์ทรงนำมาบังหน้านโยบายอื่นๆ เช่น การลงทุนหลายล้านล้านดอลลาร์ไปกับการสร้าง 'เมืองแห่งอนาคต' หรือการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่างๆ
กระทั่ง 2 ต.ค. 2561 คาชอกกี เดินทางไปยังสถานกงสุลซาอุฯ ในนครอิสตันบูลของตุรกี เพื่อดำเนินการเรื่องหย่าร้าง แต่กลับถูกทีมปฏิบัติการของรัฐบาลริยาดราว 15 คน หนึ่งในนั้นมีอดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองริยาดเป็นหัวหน้าทีมลงมือสังหารและแยกชิ้นส่วนในวันเดียวกัน