รายงานของบริษัทไมโครซอฟท์และบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น หรือ ไอดีซี มีการคาดการณ์ว่าในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ จะเข้ามาเร่งให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย แต่มีบริษัทไม่ถึงครึ่งหนึ่งที่กำลังใช้เทคโนโลยีเหล่านี้อยู่

เนื้อหาในรายงานฉบับนี้กล่าวด้วยว่า บรรดาบริษัทชั้นนำทราบดีว่าเทคโนโลยีเอไอจะช่วยให้บริษัทมีความได้เปรียบทางการค้า แต่มีเพียงร้อยละ 41 เท่านั้นที่นำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้จริง

ราล์ฟ ฮัฟเตอร์ ประธานของไมโครซอฟท์ เอเชีย กล่าวว่า หนึ่งในอุปสรรคที่สำคัญในการปรับใช้เอไอในการปฏิบัติงานจริง มาจากการขาดทักษะทางด้านนี้ของเหล่าแรงงานผู้ปฏิบัติการ

“ผมว่าในเวลานี้ คือการขาดทักษะ และการเริ่มต้นก้าวแรก” ฮัฟเตอร์ กล่าว

ด้านวิคเตอร์ ลิม รองประธานฝ่ายที่ปรึกษาการดำเนินงานของไอดีซีประจำเอเชียแปซิฟิก มองว่าประเทศต่างๆ ในแถบเอเชียแปซิฟิก “ยังไม่พร้อมสำหรับเอไอ” เพราะต้องลงทุนมหาศาล โดยที่จะยังไม่ได้ผลตอบแทนหรือคืนทุนได้ในระยะเวลาใกล้

พร้อม-ไม่พร้อม ปรับมุมมองเพื่อยอมรับ 'เอไอ'

ในรายงานชี้ว่า บริษัทส่วนใหญ่มีความต้องการที่จะลงทุนและต้องการฝึกอบรมแรงงาน แต่ยังไม่สามารถจัดการเรื่องเวลา และไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน ในประเด็นนี้บางบริษัทยังเสริมว่า ปัจจุบันไม่มีโปรแกรมพัฒนาทักษะแรงงานที่ตรงกับความต้องการของบริษัท

แมคคินซีย์แอนด์โค. บริษัทให้คำปรึกษาชื่อดัง กล่าวว่า การพัฒนาของเทคโนโลยีจะเรียกร้องให้มีการพัฒนาทักษะทางปัญญา (Cognitive skills) ซึ่งเป็นทักษะหนึ่งในจำนวนหลายทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ที่แรงงานจะต้องมี และต้องได้รับการพัฒนาให้มีทักษะเพิ่มขึ้น อาทิ ทักษะการคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ กระบวนการคิดแบบซับซ้อน ในขณะเดียวกันก็ต้องให้ความสำคัญกับทักษะที่ใช้แรงงานทางกายภาพลดลง

“ผู้คนกำลังเริ่มเข้าใจว่า เอไอ จะเป็นทางเลือกในการเพิ่มงาน ส่งเสริมประสบการณ์ และกำจัดงานที่ไม่จำเป็นออกไป ผมคิดว่าเรากำลังอยู่ในจุดที่ดีที่เอไอจะสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในสังคม” ฮัฟเตอร์ กล่าว

สำหรับประเด็นที่ผู้คนมองวา เอไอ จะเข้ามาแย่งงานของคนนั้น ฮัฟเตอร์มองว่าความคิดเหล่านั้นเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว โดยมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนจากความกลัวไปเป็นความสงสัยอยากรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีมากกว่า

เอไอเป็นเทคโนโลยีที่พุ่งเข้าหาผู้คนในยุคนี้ด้วยความเร่งเต็มอัตรา จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องตระหนักถึงความรู้และทักษะต่างๆ ที่จำเป็น แม้จะไม่ได้อยู่ในสายงานการผลิตก็ตาม เพราะเอไอไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในอุตสาหกรรมการผลิต แต่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของมนุษย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หรืออย่างน้อยๆ ก็ในโทรศัพท์มือถือของทุกคน

อ้างอิง; CNBC