วันที่ 1 ก.พ. 2566 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) แถลงต่อสื่อมวลชนว่า สำนักงาน ป.ป.ช. สนธิกำลังกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก. ปปป.) และสำนักงาน ป.ป.ท. เข้าจับกุมเข้าจับกุม ไพฑูรย์ ภูมิช่อ อายุ 58 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบางชัน ปลื้มวิทยานุสรณ์ ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” ได้ภายในห้องทำงานโรงเรียนบางชันปลื้มวิทยานุสรณ์ ถ.พระยาสุเรนทร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร ซึ่งการจับกุมดังกล่าวนั้นอยู่ภายใต้ปฏิบัติการ “ไข่นกกระทา”
สืบเนื่องจากก่อนหน้าได้รับการร้องเรียนว่า ไพฑูรย์ ใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ มีพฤติการณ์ เรียกรับเงินจากคู่สัญญาหรือผู้ประกอบการที่ชนะการเสนอราคาโครงการจ้างเหมาประกอบอาหารสำหรับนักเรียนภาคเรียนที่ 2/2565 ของโรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) เป็นเงิน 329,000 บาท อ้างว่าจะนำไปปรับปรุงวัสดุ อุปกรณ์ โต๊ะ เก้าอี้ ภายในโรงอาหารของโรงเรียน และเรียกเก็บเพิ่มเติมเป็นเงินรายเดือนอีกเดือนละ 9,000 บาท เงินส่วนหลังนี้อ้างว่าเป็นค่าดูแลครูที่ทำหน้าที่ดูแลโครงการอาหารนักเรียน จำนวน 5 คน โดยให้เหตุผลว่า ทางผู้ประกอบการได้กำไรจากการจัดทำโครงการดังกล่าวไปแล้ว หากไม่ยอมทำตามก็จะทำเรื่องยกเลิกสัญญา หรือทำเรื่องรายงานไปที่กรุงเทพมหานครว่า ผู้ประกอบการได้รับเงินส่วนต่างค่าอาหารเช้าจากการที่เด็กนักเรียนไม่มารับประทานอาหารเป็นเงินจำนวนมาก หลังทราบเรื่องจึงจัดกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบจนทราบว่า มีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำผิดดังกล่าวจริง จึงวางแผนให้ผู้ประกอบการนำเงินไปส่งมอบให้กับ ไพฑูรย์ ตามที่ร้องขอ ก่อนนำกำลัง เข้าจับกุมตัวได้พร้อมกับเงินของกลางดังกล่าว
จากการสอบสวน ไพฑูรย์ ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่มีการเรียกรับเงินแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าก่อนหน้าจะถูกจับกุมได้มีการเชิญตัวผู้ประกอบการมาเข้าพบจริง แต่เป็นการเรียกมาพบเพื่อเจรจาเกี่ยวกับปัญหาที่มีการร้องเรียนเรื่องคุณภาพอาหารเพียงเท่านั้น ส่วนซองเงินที่อยู่บนโต๊ะนั้น ก็ไม่ทราบว่าเป็นของผู้ประกอบการ คนดังกล่าววางลืมไว้หรือไม่ แต่ไม่ใช่ของตนอย่างแน่นอน เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป. เพื่อทำการแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวน ส่งต่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา ตามหน้าที่และอำนาจต่อไป