วันที่ 26 มี.ค. 2564 ที่หมู่บ้านทะลุฟ้า ข้างทำเนียบรัฐบาล มีการจัดกิจกรรมภายใต้ธีมงาน ‘ติวทะลุฟ้า ติวสังคมศึกษางัดหน้าเผด็จการ’ เพื่อติววิชาสังคมศึกษาให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งกำลังเตรียมสอบ O-Net 

โดยภายในงานมีการปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์ระบบการศึกษาไทย โดย ครูทิว ธนวรรธน์ สุวรรณปาล จากเพจครูของสอน จากนั้นมีการเปิดติวเตรียมสอบ O-Net สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาโดยครูพี่เอย และสุดท้ายมีการเปิดคลิปให้กำลังใจ พร้อมแนะนำหนังสือสำหรับนักเรียนที่สนใจศึกษาต่อในสายสังคมศาสตร์โดย ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการไทยผู้ลี้ภัยทางการเมือง

ครูทิว เริ่มต้นว่า ขอให้กำลังใจนักเรียนที่กำลังจะสอบ O-net ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ จากนั้นเขาระบุว่า การศึกษาไทยภายใต้รัฐบาลชุดนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยมีแนวนโยบายที่ชัดเจน ผู้นำไร้วิสัยทัศน์ ไม่มีการฉายให้เห็นภาพในอนาคตว่าจะนำพาการศึกษา และอนาคตของชาติไปอยู่ที่จุดไหน

“เรายังคงแช่เเข็งประเทศ พยายามให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่เขามาอยู่ในระบบการศึกษาคิดแบบเดิม ทำแบบเดิม เชื่อฟังแบบเดิม แต่ผมบอกไว้ตรงนี้ว่า ไม่มีอะไรที่จะเหมือนเดิมอีกต่อไป เด็กรุ่นใหม่ไม่ได้เชื่อฟัง ไม่ได้เชื่องเชื่อเหมือนกับรุ่นก่อนอีกต่อไปแล้ว การศึกษาไทยไม่สามารถล้างสมองเด็กรุ่นนี้อีกต่อไปแล้ว” 

ครูทิว กล่าวถึงรูปแบบการเรียนการสอนนระบบการศึกษาไทยว่า ในปัจจุบันนี้มีทั้งการศึกษาในระบบ และการศึกษานอกระบบ แต่สิ่งที่รัฐไทยมุ่งให้ความสำคัญนั้นมีเพียงแค่การศึกษาในระบบ ส่วนการศึกษานอกระบบการศึกษาตามอัธยาศัย ศิลปวัฒนธรรม แหล่งเรียนรู้ในชุมนุม กลับถูกหลงลืม ไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ แม้สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เป็นตัวตนเป็นสิ่งที่ให้คุณค่ากับคนเดินดิน แต่สิ่งที่รัฐทำคือเน้นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ซึ่งรวมศูนย์อำนาจอยู่ที่ศูนย์กลาง และเน้นอย่างยิ่งที่จะทำให้การศึกษารับใช้รัฐและทุน 

“เราจะเห็นได้ชัดว่า ตัวชี้วัดและเนื้อหาในหนังสือประวัติศาสตร์ แบบเรียนไทย พูดถึงใคร พูดถึงอะไรบ้าง ผมสอนวิชาประวัติศาสตร์หน้าที่พูดถึงคณะราษฎร หน้าที่พูดถึง 14 ตุลา 6 ตุลา พฤษภาทมิฬ บอกแค่ว่ามีการประท้วง เกิดการจราจร และมีการยึดอำนาจ ในหนังสือไม่เคยบอกเลยว่าใครถูกรัฐกระทำบ้าง การศึกษากำลังฆ่าคนเดือนตุลา คนเดือนพฤษภา และพี่น้องเสื้อแดงอีกครั้งหนึ่ง”

ส่วนแบบเรียนประวัติศาสตร์ไทยนั้นกำลังตัดสินว่าสิ่งใดถูกผิด และเข้าไปลดทอนคุณค่าการต่อสู้ของประชาชน ขณะที่การเรียนการสอนก็ใช้ระบบใบงานที่มีโจทย์มาให้ และคำตอบที่ถูกต้องนั่นจะต้องมาจากแบบเรียนเท่านั้น หากนักเรียนตอบในแนวทางอื่นถือว่าผิด ซึ่งนี่คือการปิดกั้นการใช้ความคิดของผู้เรียน ไม่ส่งเสริมให้เกิดกระบวนกสรค้นหาข้อเท็จจริง เพราะคำตอบที่ถูกต้องนั้นถูกรัฐกำหนดไว้แล้ว 

นอกจากนี้เขายังกล่าวต่อไปถึงข้อสอบสังคมศึกษาของไทยด้วยว่า แม้สังคมไทยจะมีความหลากหลายของการนับถือศาสนา แต่ข้อสอบส่วนมากที่ออกมาคือ การตั้งคำถามเกี่ยวกับศาสนาพุทธ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงการรวมศูนย์ที่รัฐส่วนกลางเป็นผู้กำหนดขึ้นมา โดยไม่เห็นความสำคัญของสิ่งอื่นที่ไม่ได้เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับรัฐ

“เห็นได้ชัดแล้วว่า การศึกษาไทยมันปลูกฝังอุดมการณ์ที่รัฐต้องการ ปลูกฝังอุดมการณ์ที่รัฐกำหนดมาแล้วเท่านั้น ทั้งที่จริงแล้วการศึกษาควรเป็นการปลดปล่อยผู้คนจากรัฐและทุน”

ขณะที่ ปวิน ได้ส่งคลิปให้กำลังใจนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งกำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยว่า ขอให้กำลังใจกับนักเรียนที่กำลังถูกกดทับจากระบบการศึกษาไทย อย่างไรก็ตามก็ประทับใจที่นักเรียนในยุคนี้กล้าที่จะลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของตัวเอง และหลายคนกล้าลุกขึ้นมาตั้งคำถามกับระบบการศึกษา และสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศ 

ปวิน ย้ำว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้ของระบบการศึกษาไทยคือ การสร้างพื้นที่ให้มีการคิดในเชิงวิพากษ์ และการคิดแบบต่อยอด โดยการปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนใหม่ และคนเป็นครูก็ควรปรับปรุงการเรียนการสอนด้วย 

ปวินยังแนะนำหนังสือสองเล่มคือ Royal capitalism ของ ปวงชน อุนจะนำ และ โอลด์รอยัลลิสต์ดาย Old Royalists Die ของ วาดรวี ซึ่งทั้งสองเล่มนี้จะช่วยในการทำความเข้าใจให้เห็นถึงเนื้อแท้ของโครงสร้างสังคมการเมืองไทย

ในส่วนของการติววิชาสังคมศึกษาโดยครูพี่เอยสามารถชมย้อนหลังได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Unme of anarchy