แม้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไม่ได้ระบุถึงจำนวนประเทศที่มีการระงับบริการวีซ่า แต่สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลสหรัฐฯ ในหลายประเทศ ทั้งเกาหลีใต้ แอฟริกาใต้ เยอรมนีและสเปน ได้ประกาศผ่านเว็บไซต์ของตัวเองว่า จะระงับการออกวีซ่าหรือลดจำนวนบริการลง ขณะที่สถานทูตสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้ระบุในแถลงการณ์ว่า การระงับบริการวีซ่านี้มีขึ้นในประเทศที่สหรัฐฯ ออกเตือนภัยการเดินทางในระดับ 2,3 หรือ 4 ส่วนสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ก็ได้ประกาศผ่านเว็บไซต์เช่นกันว่า ทั้งสถานทูตในกรุงเทพฯ และสถานกงสุลใหญ่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้ยกเลิกวันนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่าชั่วคราว แต่จะเปิดทำการให้เร็วที่สุดหากเป็นไปได้ โดยหากมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องเดินทาง แนะนำให้ปฏิบัติตามระเบียบการขอวีซ่าเร่งด่วน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า สถานเอกอัครราชทูตในประเทศเหล่านี้จะระงับการนัดสัมภาษณ์ทั้งวีซ่าอพยพและประเภทคนอยู่ชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. 63 แต่จะยังให้บริการวีซ่าฉุกเฉินตามที่ทรัพยากรเอื้ออำนวย เช่นเดียวกับยังคงให้บริการกับพลเมืองสหรัฐฯ โดยสถานทูตต่างๆ เหล่านี้จะกลับมาให้บริการวีซ่าอีกครั้งเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้แม้ยังไม่สามารถระบุวันที่แน่นอนในตอนนี้ พร้อมย้ำว่าการระงับบริการนี้ไม่กระทบต่อโปรแกรมยกเว้นวีซ่า (VWP) ซึ่งอนุญาตให้พลเมืองของบางประเทศที่เข้าร่วมสามารถเดินทางเข้าสหรัฐฯ เพื่อท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจได้ไม่เกิน 90 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 214,000 รายทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 8,800 ราย ใน 164 ประเทศ ส่งผลให้หลายที่มีการสั่งปิดเมืองและอัดฉีดเม็ดเงินลงไปอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้ของสหรัฐฯ ถูกมองว่าอาจกระทบต่อหลายอุตสาหกรรม รวมถึงภาคการเกษตรที่โดยปกติมักเพิ่มการจ้างแรงงานต่างชาติที่ถือวีซ่าแรงงานชั่วคราวตามฤดูกาลก่อนเข้าสู่ช่วงการเพาะปลูกในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน รวมถึงธุรกิจที่ต้องการพนักงานตามฤดูกาลเช่นงานแฟร์ไปจนถึงฮอลิเดย์รีสอร์ทต่างๆ ซึ่งมักพึ่งโครงการวีซ่าทำงานชั่วคราวที่อนุญาตให้นายจ้างสามารถจ้างแรงงานต่างชาติเข้ามาทำงานชั่วคราวตามช่วงฤดูกาลในการหาแรงงานทักษะต่ำเข้ามาเติมเต็ม โดยเดอะวอลสตรีทเจอนัลรายงานว่า แรงงานส่วนใหญ่มาจากเม็กซิโก ซึ่งสถานทูตสหรัฐฯ ในเม็กซิโกได้ระงับบริการออกวีซ่าด้วยเช่นกัน ขณะที่เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ระบุว่า นี่อาจกระทบต่อภาคการผลิตอาหารในช่วงเวลาที่ผู้คนพยายามกักตุนอาหารไว้ใช้บริโภคระหว่างแยกตัวอยู่บ้านเพื่อชะลอการแพร่ระบาดของไวรัส