วันที่ 8 ก.ค. บิ๊นท์-สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 และนางสาวไทย ประจำปี 2563 ให้สัมภาษณ์ทีมข่าว ‘วอยซ์ออนไลน์’ ภายหลัง คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่..) พ.ศ. … และร่างพระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิต พ.ศ. ... ทำให้คู่รักเพศเดียวกันจดทะเบียนคู่ชีวิตได้ โดยมีหลักการเพื่อให้กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นธรรม เท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ และให้สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี
บิ๊นท์ บอกว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่เสียงของกลุ่มที่รู้สึกว่าถูกจำกัดสิทธิด้วยเพศได้รับการยอมรับ แต่คิดว่า ถ้าหากบุคคลมีสิทธิ และเสรีภาพเท่าเทียมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ตั้งแต่ต้น ก็ไม่มีความจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องนี้ หรือมี พ.ร.บ.ว่าด้วยเรื่องนี้ให้เป็นกฎหมายพิเศษ
“เข้าใจว่าแต่ละยุคสมัยไม่เหมือนกัน แต่เพศควรเป็นแค่สเตตัสว่า บ่งบอกว่าแต่ละบุคคลคือเพศอะไร แต่ไม่ควรเอามาตัดสินว่าควรได้รับการประพฤติปฏิบัติอย่างไร ทำอันนี้ได้ อันนี้ไม่ได้ กฎหมายการสร้างครอบครัวก็ไม่ควรจำกัดสิทธิเช่นเดียวกัน ความรักของทุกคนบนโลกใบนี้ไม่ควรมีการจำกัดด้วยกฏหมาย ควรจะเป็นกฏหมายที่บ่งบอกว่าบุคคลมีความสามารถทำอะไรได้บ้าง ตามสิทธิเสรีภาพในรัฐธรรมนูญ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ทั้งเรื่องฐานะและเพศ แต่ทุกเพศก็คือบุคคล ซึ่งบุคคลควรมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกันตั้งแต่กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งเป็นแม่บท ไม่ควรถูกจำกัดว่ากลุ่มนี้ได้หรือไม่ได้ ถ้าทำได้ต้องมีกฎหมายพิเศษ ทั้งที่กฎหมายเองควรว่าด้วยเรื่องสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคลอย่างเท่าเทียมกันอยู่แล้ว หวังว่าในอนาคตจะได้รับการผลักดันให้ทุกเพศมีความเท่าเทียมกัน 100 เปอร์เซ็นต์”
ทั้งนี้ บิ๊นท์ ยังแสดงความคิดเห็นว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่อง #สมรสเท่าเทียม ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้กฎหมายมีความครอบคลุมและเข้ากับยุคสมัย ขณะเดียวกัน พ.ร.บ.การจดทะเบียนคู่ชีวิตก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทำให้สังคมตระหนักถึงความเท่าเทียมทางเพศ และให้สิทธิในการสร้างครอบครัวอย่างเท่าเทียม แต่ยังมีสิทธิอีกหลายด้านที่ไม่เท่าเทียมกันระหว่างคู่สมรสระหว่างชายและหญิง ซึ่งส่วนตัวเห็นควรได้รับการแก้ไขให้ครอบคลุมต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: