ไม่พบผลการค้นหา
อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเผยผลรอนายกฯ และ รมว.พาณิชย์เยือนจีน ผลักดันการซื้อขายข้าว มันสำปะหลัง ยาง ผลไม้ จัดจับคู่ธุรกิจ รักษาสัมพันธ์คู่ค้ารายเก่า เปิดออเดอร์รายใหม่ โชว์ทริป 2 วันขายผลไม้ได้ 100 ล้านบาท

นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเดินทางเยือนเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีนของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในช่วงวันที่ 20 – 21 ก.ย. ที่ผ่านมาว่าการเดินทางเยือนจีนครั้งนี้นอกจากจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และเร่งรัดติดตามให้เกิดการซื้อขายข้าวและยางพาราตามโควต้าที่เหลือได้แล้ว ยังทำให้ไทยมีโอกาสขายสินค้าเกษตร ทั้งมันสำปะหลัง ยางพารา และผลไม้ไปยังจีนเพิ่มขึ้นได้

ด้านมันสำปะหลัง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศวางแผนเชิญคณะผู้นำเข้ามันสำปะหลังจากจีนเดินทางเข้ามาพบผู้ผลิต/ผู้ประกอบการไทยในเดือน พ.ย. นี้ ซึ่งถือเป็นการเปิดตลาดใหม่ที่มีศักยภาพในจีน เนื่องจากมีอุตสาหกรรมที่มีความต้องการใช้ มันสำปะหลังเกิดขึ้นใหม่จำนวนมาก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยไทยถือเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของจีน เนื่องจากจีนนำเข้ามันสำปะหลัง (เส้นและแป้งมัน) จากไทยปีละเกือบ 7 ล้านตัน มูลค่าการค้า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ผ่านทางมณฑลหนานจิง ชิงต่าว เหอเฝย และหวงผู่ 

ส่วนของยางพาราจะมีการนัดหมายเพื่อเร่งรัดติดตามการซื้อขายยางพาราระหว่างการยางแห่งประเทศไทยและ Sinochem Group ให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่ายในระหว่างวันที่ 19 – 21 ต.ค. 2562 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ขณะเดียวกัน กรมได้วางแผนร่วมมือกับกรมการค้าต่างประเทศ และกรมการค้าภายในขยายตลาดสำหรับสินค้ายางพารา โดยมีกิจกรรมสำคัญในปี 2562 อาทิ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้ายางพาราใหญ่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ระหว่างวันที่ 18 – 20 ก.ย. การนำคณะผู้ผลิต/ผู้ส่งออกยางพาราไทยไปเจรจาการค้ากับกลุ่มธุรกิจไม้ยางและน้ำยางข้นในมาเลเซียในเดือน ต.ค. การเชิญนักธุรกิจต่างชาติที่ใช้ยางพาราเข้ามาพบผู้ผลิต/ผู้ส่งออกยางพารา ระหว่างวันที่ 20 – 22 พ.ย. และการนำคณะยางพาราไทยไปพบผู้ซื้อ/ผู้นำเข้าในตุรกีในเดือน พ.ย. 

ทั้งนี้ กรมยังมองหากลุ่มผู้ใช้ยางรายใหม่ ในธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น อาทิ ถุงมือยาง เวชภัณฑ์และนวัตกรรมจากยางพาราอื่นๆ โดยได้พบกับผู้แทนจากบริษัท ฉงชิ่ง ฉางอันหมิงเชิงโลจิสติกส์ จำกัด/บริษัท เป่ยจีนรุยเต๋อซื่อทองลงทุน จำกัด/สมาคมกว่างซีในไทย ซึ่งมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องด้านยานยนต์และมีความต้องการยางพาราจำนวนมาก

ด้านผลไม้ การเดินทางเยือนจีนในครั้งนี้ทำให้สามารถขายผลไม้ไทยได้ประมาณ 100 ล้านบาท และจีนยังช่วยผ่อนปรนมาตรการการนำเข้าผลไม้ไทย โดยแนะช่องทางเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันผ่านอีคอมเมิร์ซ และเปิดโอกาสให้ไทยได้ร่วมจัดนิทรรศการเผยแพร่ผลไม้ไทยในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงในเดือน ต.ค. กรมจึงวางแผนผลักดันให้มะพร้าวน้ำหอมเป็นผลไม้ดาวรุ่งเข้าสู่ตลาดจีนต่อไป เนื่องจากเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในจีน 

นอกจากนี้กรมยังมีแผนเชิญผู้ใช้มันสำปะหลังและพืชผลทางการเกษตรอื่นๆ เช่น ยางพารา และผลไม้จากทั่วโลกมาพบกับผู้ส่งออกและผู้ผลิตของไทยในเดือน พ.ย. นี้ด้วย

7 เดือนแรกปี 2562 ไทยนำเข้าสินค้าจีน 2.8 หมื่นล้านดอลล์ ส่งออกไปจีน 1.6 หมื่นล้านดอลล์

ทั้งนี้ ในปี 2561 การค้าระหว่างไทยกับจีน มีมูลค่า 80,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการส่งออกจากไทยไปจีน มูลค่า 30,320 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากจีน 49,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจีนเป็นคู่ค้าอันดับที่ 1 ของไทยตั้งแต่ปี 2556

โดย 7 เดือนแรกของปี 2562 (ม.ค.-ก.ค.) การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 44,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการส่งออกจากไทยไปจีน มูลค่า 16,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากจีน มูลค่า 28,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปจีน เช่น เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง ผลไม้สดและแช่แข็ง เคมีภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เป็นต้น สินค้านำเข้าสำคัญจากจีนมาไทย เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เคมีภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เป็นต้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :