ไม่พบผลการค้นหา
คนไทยพบติดโควิด-19 เพิ่ม 107 ราย ยอดสะสม 934 รายแล้ว

วันที่ 25 มี.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าของสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า สถานการณ์ในประเทศไทย มีผู้ป่วยหายกลับบ้านเพิ่ม 13 ราย และพบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อเพิ่มใหม่ 107 ราย นับเป็นรายที่ 828-934 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้

  • กลุ่มที่ 1 เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันเดิมและเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 27 ราย ได้แก่
  1. เกี่ยวข้องกับสนามมวย 4 ราย ได้แก่ พนักงานขับรถบริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.) และรถรับจ้าง
  2. เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง 5 ราย ได้แก่ นักท่องเที่ยว นักร้อง นักดนตรี ประชาสัมพันธ์และเจ้าของสถานบันเทิง
  3. ผู้ป่วยที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีการรายงานมาก่อนหน้านี้ จำนวน 14 ราย มีอาชีพ รับจ้าง ค้าขาย พนักงานบริษัท นักศึกษา คนขับรถแท็กซี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ต้องขัง พบผู้ป่วยกระจายอยู่ที่ จ.เพชรบุรี จ.ฉะเชิงเทรา จ.ปราจีนบุรี จ.ชลบุรี จ.ภูเก็ต และ กรุงเทพฯ
  4. เดินทางกลับจากร่วมพิธีทางศาสนาที่ประเทศมาเลเชีย จำนวน 4 ราย พบผู้ป่วยที่ จ.สงขลา และ จ.ยะลา
  • กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ มีจำนวน 13 ราย ได้แก่
  1. ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศจำนวน 6 ราย เป็นชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้แก่ ชาวอังกฤษ ฟินแลนด์ เยอรมัน และอเมริกัน
  2. ผู้ที่ทำงานหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่แออัดที่จะต้องใกล้ชิดกับคนจำนวนมาก หรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ จำนวน 5 ราย ได้แก่ พนักงานบริษัท พนักงานร้านนวด แคชเชียร์ และเจ้าหน้าที่สนามบิน
  3. บุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 2 ราย พบว่าเป็นแพทย์พี่เลี้ยง หรือ แพทย์ผู้ใช้ทุนปีที่ 2 และได้ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาล (รพ.) มีอาการเล็กน้อย แต่ยังคงทำงานในแผนกผ่าตัด ร่วมรับประทานอาหารกับเพื่อนร่วมงาน จึงมีผู้สัมผัสใกล้ชิดร่วมด้วย ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ห้องผ่าตัด 15 ราย แพทย์ร่วมงาน 10 ราย รวมผู้สัมผัสใกล้ชิด 25 ราย และทั้งหมดได้ถูกพักงานและให้อยู่ที่บ้านเพื่อกักกันตนเอง
  • กลุ่มที่ 3 ผู้ป่วยกลุ่มที่ยืนยันทางห้องปฏิบัติการ แล้วแต่ต้องรอการสอบสวนโรคและประวัติเสี่ยงเพิ่มเติมจำนวน 67 ราย

โดย นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักมีจำนวน 4 ราย ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งทีมแพทย์จะต้องเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด สรุปรวมประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยันสะสม 934 ราย กลับบ้านแล้ว 70 รายและรักษาอยู่ใน รพ.จำนวน 860 ราย มีผู้ป่วยอาการหนัก 4 ราย และเสียชีวิต 4 ราย

ขณะนี้ประชาชนที่ทำงานในกทม.และปริมณฑล ได้ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา มีโอกาสนำโรคไปแพร่กระจายให้ผู้ใกล้ชิด กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุข สำรวจผู้เดินทางกลับภูมิลำเนา ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวแยกตนเองอยู่บ้าน 14 วัน ประชาสัมพันธ์มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) งดกิจกรรมรวมกลุ่มสังสรรค์ หากพบมีคนป่วยให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้มีโรคประจำตัวมีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่าย ควรงดออกจากบ้าน เพื่อลดโอกาสรับเชื้อ ส่วนคนในบ้านที่ออกไปทำงานมีโอกาสไปรับเชื้อจากนอกบ้าน เมื่อกลับถึงบ้านให้ทำความสะอาดร่างกายทันที หมั่นล้างมือบ่อยๆ ให้เว้นระยะห่างในครอบครัวด้วย เพื่อป้องกันนำเชื้อโรคมาให้คนในครอบครัว

ขอความร่วมมือประชาชนทุกคน หากป่วย มีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจให้รีบพบแพทย์ทันที ให้ข้อมูลตามความจริง เพื่อจะได้วินิจฉัยรักษาได้ทันท่วงที ขอให้ทุกคนคำนึงถึงความปลอดภัยของแพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุข อย่าปกปิดข้อมูลประวัติเสี่ยง เพราะจะส่งผลเสียต่อการรักษาโรค ที่สำคัญเกิดความเสี่ยงต่อบุคลากร หากติดเชื้อจะส่งผลต่อการจัดบริการ ขาดผู้รักษาพยาบาลผู้ป่วย จะเกิดผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขอย่างมาก