3 มี.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่เขตบางคอแหลม พรรคเพื่อไทย นำโดย พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานยุทธศาสตร์ภาค กทม., ดนุพร ปุณณกันต์ ประธานรณรงค์หาเสียงภาค กทม., ขัตติยา สวัสดิผล โฆษกภาค กทม., พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กรุงเทพพรรคเพื่อไทย, ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรค, ประภัสร์ จงสงวน, อุเมส ปานเดย์, พชร ธรรมมล สมาชิกพรรค ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 3 (ยานนาวา-บางคอแหลม) หาเสียงบริเวณ ชุมชนมิตรสัมพันธ์ ซอยเจริญกรุง 85 โดยมี สกาวใจ พูลสวัสดิ์ (อ๋อม) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตสะพานสูง ร่วมหาเสียง โดยมีแฟนคลับจำนวนมากแห่ให้กำลังใจ รวมถึงขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกจำนวนมาก

โดยในการลงพื้นที่หาเสียงรอบนี้ พรรคเพื่อไทยชูนโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย , 1 ครอบครัว 1 ศักยภาพ สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง ปีละ 200,000 บาทต่อคน นโยบายยกระดับโครงการ 30 บาท ลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมันทันที ที่ได้เป็นรัฐบาล และนโยบายอื่นๆ

โดยที่บริเวณชุมชนมิตรสัมพันธ์ ฐานิสร ฉัตรธรรมนิตย์ ภรรยาประธานชุมชนมิตรสัมพันธ์กล่าว ศิลปะเดคูพาจ คือศิลปะการเพ้นท์ลายที่ทางชุมชนมิตรสัมพันธ์ให้ความสนใจในการฝึกอาชีพชาวบ้านในชุมชนมิตรสัมพันธ์มีการรวมกลุ่มกันเพื่อฝึกทำการเพ้นท์ลายบนกระเป๋า พัด ตระกร้า เพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้าดังกล่าว ในการจัดจำหน่าย ปัญหาคือการนำสินค้าไปแสดงหรือจัดจำหน่าย ต้องมีการสต๊อกของจำนวนมาก และมีการหักค่า GP สูง ความร่วมมือของชาวบ้านเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ 

โดย พวงเพ็ชร กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านในชุมชนมีศักยภาพที่ซ้อนเร้นในตัวเอง หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะผลักดันส่งเสริมให้แต่ละครอบครัวมีผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกได้ 1 ครอบครัวต่อ 1 ศักยภาพ เพื่อเป็นการต่อยอดโครงการ OTOP นโยบายไทยรักไทยเดิม ให้ออกไปสู่ตลาดโลก เปลี่ยนจุดแข็งเป็นจุดขาย สร้างรายได้ให้กับชุมชน และสร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง ให้มีรายได้ 200,000 บาท/ปี บาทต่อหนึ่งครอบครัว

ด้าน เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 3 กล่าวว่า เศรษฐกิจในชุมชนเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญในการผลักดัน เนื่องจากผู้ที่อาศัยในชุมชนมีรายได้น้อย เงินทุนไม่มาก และปัญหายาเสพติดแพร่ระบาดในชุมชนเยอะ หากมีการสนับสนุนในเรื่องของภูมิปัญญาท้องถิ่นให้กับชาวบ้าน จะทำให้ชาวบ้านมีรายได้มากขึ้น ลืมตาอ้าปากได้ และเยาวชนสามารถใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ จึงอยากจะเป็นอีกหนึ่งเสียงในการผลักดัน Soft Power ชุมชน เพื่อกระจายรายได้สู่ทุกครัวเรือนต่อไป

จากนั้นแกนนำพรรคเดินเยี่ยมชม ตลาดทางเท้า บริเวณซอยเจริญกรุง 85 และได้รับหนังสือจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งในจดหมายมีความระบุว่า ปัจจุบันข้าวของมีราคาแพงทำให้ต้นทุนสูง ค้าขายราคาสูงไม่ได้เพราะจะไม่มีคนซื้อ ขายราคาถูกก็ขาดทุน มีกำไรน้อย คนซื้อมีจำนวนน้อย ส่วนคนขายมีจำนวนมากกว่า ทำมาหากินยากลำบาก ไม่พอกับรายจ่าย ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ที่ขึ้นราคา รวมทั้งก๊าซหุงต้ม ขอให้ผู้บริหารพรรคเพื่อไทยช่วยเหลือด้านความเป็นอยู่ของประชาชนด้วย หากยังเป็นอยู่อย่างนี้ ประชาชนจะเดือดร้อนมากๆ

"ตอนนี้เห็นเพื่อไทยมีคุณเศรษฐาเข้ามาเป็นประธานที่ปรึกษาคุณอุ๊งอิ๊งก็ดีใจ เพราะเป็นนักธุรกิจก็จะเข้าใจพ่อค้าแม่ค้าว่าทำมาค้าขายยังไง ก็ขอให้นึกถึงพ่อค้าแม่ค้ารายเล็กรายน้อยด้วย" ตัวแทนชาวบ้านที่มายื่นหนังสือกล่าว

และเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ เศรษฐา ทวีสิน หลังเปิดตัวเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่เคยระบุว่า เจ้าตัวไม่ถนัดในการลงพื้นที่ในลักษณะนี้ และจะเห็นเศรษฐา ในการลงพื้นที่หรือไม่ พวงเพ็ชร ตอบว่า สำหรับเศรษฐามีความพร้อมในการลงพื้นที่แล้ว และได้จัดตารางในการลงพื้นที่พบปะประชาชนพร้อมกันในโอกาสต่อไป

หลังจากรับฟังปัญหาเสร็จแล้ว แกนนำพรรคเพื่อไทยได้ขึ้นรถแห่จากตลาดไปมัสยิดบางอุทิศเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้นำศาสนา โดยระหว่างทาง มีแฟนคลับโบกมือ ขณะที่แฟนคลับรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อได้ส่งเสียงกรี๊ดเชียร์นักการเมืองที่ตนชื่นชอบ พร้อมวิ่งตามขบวนรถแห่เพื่อมาขอถ่ายภาพด้วย