ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จังหวัดพิจิตร นายวร ก้อนมณี เกษตรกรชาวสวนชมพู่ พนักงานขับรถสำนักงานสหกรณ์การเกษตรพิจิตร เริ่มปลูกชมพู่ทับทิมจันทร์ ไว้ 30 ต้น เพื่อเป็นอาชีพเสริม หลังจากเลิกจ้าง จะได้กลับมาทำสวน จึงทดลองปลูก ชมพู่ทับทิมจันทร์ ซึ่งการปลูกใช้เวลา 2 ปี ชมพู่จะให้ผลผลิต โดยในช่วงชมพู่ออกผล ทางเกษตรกรต้องเร่งห่อผลให้ทันเพื่อป้องกันแมลงวันทอง ทำลายผลผลิต
ทำให้เกษตรกรหมู่ที่ 12 บ้านคลองโนน ตำบลคลองคะเชนทร์ อำเภอเมืองพิจิตร ต้องเร่งห่อผลชมพู่ทับทิมจันทร์ เพื่อป้องกันแมลงวันทอง เข้ากัดกินผลชมพู่ที่ปลูกไว้จำนวน 30 ต้น โดยขณะนี้ชมพู่กำลังออกผลผลิตจำนวนมาก เก็บออกจำหน่ายขายข้างถนน สามารถสร้างรายได้วันละ 1-2 พันบาท
สำหรับชมพู่ทับทิมจันทร์ เดิมมีชื่อว่า "ชีตา" นำมาจากประเทศอินโดนีเซียเพื่อปลูกในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2538 จัดเป็นไม้ผลเมืองร้อน ปลูกง่าย โตเร็ว มีรสชาติหวานกรอบ เป็นผลไม้ให้พลังงาน อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารมากมาย ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินซี จึงเป็นที่นิยมรับประทาน และมีความต้องการของตลาดสูง ผิวมันวาวแดงสดค่อนข้างหนา เนื้อแน่น รสชาติหวานกรอบ ไม่มีเมล็ด