เมื่อวันที่ 10 ม.ค. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คำพิพากษา ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน คดีหมายเลขดำที่ อม. 1/2562 คดีหมายเลขแดงที่ อม. ๒๓๗/๒๕๖๒ ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และ นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง ภรรยา นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีตนักการเมือง และ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
เอกสารดังกล่าว ระบุคำพิพากษาว่า นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณี พ้นจากตําแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมือง หรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่ วันที่ 9 ธันวาคม 2556 ซึ่งเป็นวันที่ ผู้ถูกกล่าวหา พ้นจากตําแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณี พ้นจากตําแหน่ง องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากให้ลงโทษจําคุก 2 เดือน คําขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ก่อนหน้านี้ วันที่ 16 ก.ย. 2562 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาคดี ดังกล่าว โดยผู้ถูกกล่าวหาทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาล อาศัยอำนาจตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 40 วรรคสอง ศาลจึงอ่านคำพิพากษาลับหลังผู้ถูกกล่าวหา และถือว่าผู้ถูกกล่าวหาทราบคำพิพากษาแล้ว
ศาลมีคำวินิจฉัยในสาระสำคัญว่า นางระพิพรรณ แสดงบัญชีทรัพย์สิน โดยระบุว่า มีหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือคือ สัญญาที่ผู้ถูกกล่าวหากู้ยืมเงิน 3 ฉบับรวม 13 ล้านบาท โดยมิได้กู้ยืมกันจริง แสดงรายได้ตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 15 ล้านบาท โดยไม่ได้รับเงินจริง แสดงรายได้จากสัญญาจ้างทำของนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง คู่สมรส 27 ล้านบาท โดยไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักเชื่อว่า นายอริสมันต์ ได้มีการจ้างงานดังกล่าวจริง จึงเป็นการจงใจยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินฯเป็นเท็จ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :