ที่อาคารรัฐสภา อุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) พ.ศ. 2560 ที่เป็นข้อถกเถียง โดยเฉพาะมาตรา 17 ว่าด้วยเรื่องการยกหนี้ กยศ. ให้ผู้กู้ ซึ่งปรากฏผลว่าจากเสียงข้างน้อย สามารถพลิกกลับเป็นเสียงข้างมากได้ คือที่ประชุมสภาในวาระ 2 เห็นชอบกับ การยกเลิกดอกเบี้ย ยกเลิกเบี้ยปรับ ไม่มีผู้ค้ำประกัน ตนในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการฯ ขอขอบคุณ ส.ส.ทุกคน ที่ได้ลงคะแนนเสียงเพื่อประชาชนที่เป็นลูกหนี้ กยศ. ราว 6 ล้านคน และผู้ค้ำประกันอีก 6 ล้านคน
"วันนี้เราถือว่า เรากำลังจะเลิกทาส ในการที่ชนชั้นใด เมื่อมีโอกาสออกกฎหมายจะออกกฎหมายเพื่อชนชั้นนั้น ในขณะเดียวกันวันนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน ที่มองเห็นว่าพี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบ มีความจำเป็น มองว่าคนในชนบท คนยาก จะมีโอกาสเท่าเทียมกับคนมีฐานะ อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่า กฎหมายฉบับนี้จะพัฒนาไปเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง วันนี้เราไม่มีพรรครัฐบาล หรือพรรคฝ่ายค้าน เรามีแต่พรรคเพื่อประชาชน" อุบลศักดิ์ ระบุ
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ กล่าวว่า การเก็บดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ ถือเป็นภาระของประชาชน นักเรียนนักศึกษาจำนวนมากที่จบการศึกษามา ยังหางานทำไม่ได้ ไม่มีเงินมาใช้หนี้ ก็ส่งผลให้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีโดย กยศ. เสียงส่วนน้อยมองว่า เป็นการขัดต่อหลักการของรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำหนดว่าผู้ยากไร้ที่ต้องการการศึกษารัฐต้องจ่ายกองทุนให้ เสมือนกองทุนให้ฟรี ดังนั้น การแก้กฎหมายยังอยู่ในหลักการว่าเป็นหนี้ต้องใช้หนี้ แต่ใช้เพียงเงินต้น
"คนที่เรียนจบ เราถือว่าประเทศมีกำไร ไม่เช่นนั้นเหมือนการส่งทอดความยากจนจากรุ่นพี่ไปยังรุ่นน้องไม่จบสิ้น และสร้างความเหลื่อมล้ำ การแก้ไขร่าง พ.ร.บ.กยศ.ในครั้งนี้ ผู้เป็นหนี้ต้องใช้หนี้ แต่ขอให้ใช้หนี้ โดยไม่มีดอกเบี้ยและเบี้ยปรับก่อน เราต้องเปลี่ยนความคิด ต้องสร้างมนุษย์ ใช้ความรู้ ใช้ปัญญานำ" พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ด้าน ภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การพิจารณาวาระ 2 พรรคยืนยันจุดยืน 4 ข้อมาตลอด ว่าคนเป็นหนี้ต้องใช้หนี้ ดอกเบี้ยต้องเป็น 0% ต้องไม่คิดเบี้ยปรับ และต้องไม่มีผู้ค้ำประกัน โดยให้ผู้กู้เป็นผู้ค้ำประกันตัวเอง สุดท้ายต้องขอบคุณสภาฯ ที่ช่วยกันสนับสนุนแนวทางดอกเบี้ย 0%
“ขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกพรรคที่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ ส่วนที่หลายท่านแสดงความห่วงใย ว่าจะทำให้ผู้กู้เสียวินัยหรือไม่ หรือจะทำให้กยศ.ต้องล้มไปในอนาคตหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่า กองทุนกยศ.มีมูลค่า 3 - 4 แสนล้านบาท หากผู้บริหารกยศ. บริหารจัดการกองทุนได้ดีจะทำให้กองทุนยืนหยัดต่อไปได้ ส่วนวินัยการเงิน การคลัง เชื่อว่า ผู้กู้ไม่มีใครตั้งใจจะเบี้ยวหนี้ เราเชื่อว่าเขาพร้อมจะชำระตามกำหนดเวลา” ภราดร กล่าว