วันที่ 25 มี.ค. 2565 ที่บีบีซีฮอลล์ แกรนด์ บอลลรูม เซนทรัล พลาซา ลาดพร้าว พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำ และปาฐกถาเพื่อระดมทุนของพรรค ภายใต้แนวคิด 'Go Together, Go Further' นำโดย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมด้วย ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) และอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก 

นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า โดยมีผู้ได้รับเทียบเชิญ 100 โต๊ะ แต่ละโต๊ะมีที่นั่ง 5 คน เพื่อให้เป็นไปตามมาตราการเว้นระยะห่าง รวมกับโต๊ะของกรรมการบริหารพรรค และสื่อมวลชนอีก 20 โต๊ะ ทั้งหมดเป็น 120 โต๊ะ เนื่องจากอายุของสภาล่วงเลยเข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว จึงเป็นเรื่องปกติที่พรรคการเมืองจะต้องมีการระดมทุน เพื่อเตรียมความพร้อมในด้านยุทธศาสตร์ บุคคล และแนวนโยบาย เพราะยากที่จะคาดเดาว่าสถานการณ์ทางการเมืองต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น พรรคประชาธิปัตย์จึงร่วมกันเตรียมความพร้อมไว้ด้วยการระดมทุน  สำหรับเป้าหมายของการระดมทุนครั้งนี้ นิพนธ์ คาดว่า จะอยู่ที่ประมาณ 150-200 ล้านบาท 

เวลา 16.30 น. จุรินทร์ เดินทางมาถึงสถานที่จัดงาน ตามด้วย เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค บัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และสมาชิกพรรครายอื่นๆ 

ขณะที่ เฉลิมชัย ศรีอ่อน กล่าวเปิดงานว่า การจัดงานในวันนี้ เหตุที่ไม่ได้เอ่ยชื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพราะเป็นงานของทุกคน มีจุดประสงค์ให้บรรยากาศเหมือนการพบปะของคนในครอบครัว มีความเป็นกันเอง ทุกคนพูดคุยกันเหมือนพี่น้อง ญาติ และยังเป็นจุดเริ่มต้นที่พรรคประชาธิปัตย์จะเดินไปหาท่านต่อจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ก่อตั้งมา 76 ปี อยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยืนอยู่ด้วยหลักการและอุดมการณ์ที่มั่นคง มีความเคารพในระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมาย จริงอยู่เป็นพรรคการเมืองที่อายุยืนยาวที่สุดในประเทศไทย 

"วันนี้ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรม ที่ปฏิบัติตาม พ.ร.บพรรคการเมืองทุกประการ คือการจัดงานระดมทุน หรือพูดง่ายๆ คือการจัดการหาเงิน แต่ทำโดยเปิดเผย ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เคยทำอะไรใต้ดิน เชิญทุกท่านมาเพื่อมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประชาธิปไตยที่ถูกต้อง รายได้วันนี้ก็จะนำไปทำกิจกรรมของภาค อย่างเปิดเผยต่อสาธารณชน เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน และส่งเสริมประชาธิปไตย" เฉลิมชัย ระบุ 

เฉลิมชัย ยังได้กล่าวว่า ทุนที่ได้ในครั้งนี้จะนำไปใช้อย่างคุ้มค่าและโปร่งใสที่สุด เพราะถือว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นของคนทุกคน เราจะก้าวเดินต่อไปข้างหน้า โดยเอาประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก และขอเชิญทุกท่านร่วมเดินไปกับเราในอนาคต

'ศุภชัย' ชี้ยุทธศาสตร์ 20 ปี จำเป็นต่อสภาวะปัจจุบัน 

ด้าน ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา และอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ 'เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก' โดยระบุว่า ความหมายของคำว่า Go Together คือการเดินไปพร้อมกัน สถานการณ์ในบ้านเมืองเราเวลานี้ และใน ถ้าเราไม่เดินไปพร้อมกัน สงครามในทุกด้าน รวมถึงสงครามเศรษฐกิจโลก สงครามกับโรคภัยไข้เจ็บและความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม ซึ่งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเศรษฐกิจโลก จึงเรียกได้ว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านโดยแท้จริง 

ศุภชัย ระบุว่า เมื่อครั้งทำงานอยู่ที่องค์กรสหประชาชาติ ตนได้เรียนรู้สำนวนที่ว่า 'If you want to go fast, go alone. If you want to go far, go together.' หรือ 'หากคุณอยากเดินให้เร็ว จงเดินไปคนเดียว แต่ถ้าคุณอยากเดินไปได้ไกล จงเดินไปด้วยกัน' 

สำหรับสถานการณ์ในอนาคตของวิกฤตโรคระบาดนั้น แม้หลายคนจะรู้สึกว่าโรคนี้คงจะคงอยู่ตลอดไป แต่ตนมองว่า โรคโควิด-19 สามารถหายไปได้ เพราะตนได้ถอดบทเรียนต่างๆ จากประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่มีการจัดการโควิด-19 ได้ดีที่สุดประเทศหนึ่งของโลก ด้วยการใช้นโยบายที่ตั้งอยู่บนฐานของวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ไสยศาสตร์ หรือการเมือง อีกประเด็นคือการตะลุยฉีดวัคซีน อันเป็นทางออกที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะวัคซีนเข็มกระตุ้นในผู้สูงอายุ 

อีกทั้งการคิดค้นวัคซีนสำหรับรักษาโควิด-19 นั้น ไม่ใช่อาศัยเพียงศักยภาพของประเทศใดประเทศหนึ่ง หากแต่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจกันระหว่างหลายประเทศทั่วโลก ในการค้นคว้าวิจัยร่วมกัน และแบ่งปันผลจากการวิจัยนั้นให้แก่กัน อย่างไรก็ตาม ด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในปัจจุบัน ทำให้ไม่สามารถแบ่งปันความรู้เหล่านี้ได้อย่างอิสระ 

ศุภชัย ย้ำว่า สำหรับสถานการณ์สงครามที่กำลังดำเนินอยู่ในโลกขณะนี้ นโยบายของประเทศไทย ควรจะรักษาระยะห่างที่กำลังดีระหว่างประเทศต่างๆ บนโลก ตนมองว่า แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีความสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ทางด้านความมั่นคง ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ การลดความเหลื่อมล้ำ หรือการพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ แล้วจะเป็นสิ่งที่จะสร้างเกราะกำบังแข็งแกร่งให้กับเราต่อไป พรรคการเมืองทุกพรรค คนไทยทุกคน ควรทำความเข้าใจแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และผลักดันโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง

'จุรินทร์' ลั่น ปชป.เป็นพรรคของคนทุกรุ่น

จากนั้น จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงวิสัยทัศน์ ในหัวข้อ 'ยุทธศาสตร์การนำเศรษฐกิจไทยผ่านพ้นวิกฤตโควิด' วิสัยทัศน์ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่างๆนั้น ไม่ได้เกิดมาโดยบังเอิญ แต่ได้นำแม่แบบมาจากนโยบายของหลายๆประเทศที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว เช่นโครงการ 'เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด' ที่กระทรวงพาณิชย์ ได้จับมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนจะประสบความสำเร็จในหลายเรื่อง 

รวมถึงนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 เงื่อนไขก่อนประชาธิปัตย์จะยอมเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล คือรัฐบาลต้องยอมรับนโยบายสำคัญอันนี้ เพื่อยังประโยชน์สู่คนตัวใหญ่ ไปจนถึงคนตัวเล็กสุด นั่นคือเกษตรกร ซึ่งท้ายสุดรัฐบาลยอมรับเป็นนโยบาย จึงได้เดินหน้าและประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาตลอดสองสามปีที่ผ่านมา นโยบายประกันรายได้เกษตรกร ได้ช่วยเหลือให้เกษตรกรมีรายได้ไปแล้วกว่า 8 ล้านครัวเรือน หรืออย่างน้อย 32 ล้านคน ที่ได้รับประโยชน์ หากราคาผลผลิตตกต่ำ เกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่างมาชดเชยเยียวยา ให้เกษตรกรสามารถลืมตาอ้าปาก และมีส่วนในการกระจายเม็ดเงินไปกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตโควิด 

"ผลจากการทำงานร่วมกันของกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้การควบคุมของพรรคประชาธิปัตย์ในรัฐบาลนี้ มีส่วนช่วยให้ราคาผลผลิตทางการเกษตรรายตัวกระเตื้องขึ้น จนถึงวันนี้สามารถพูดได้เลยว่า ราคาพืชผลทางการเกษตร ดีขึ้นเกือบทุกกลุ่ม" จุรินทร์ กล่าว 

จุรินทร์ ระบุว่า ในระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมืองในฐานะกลไกในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ มีหน้าที่ผลักดันนโยบายไปสู่ความสำเร็จ ให้กับประเทศและประชาชน ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองหนึ่งในจำนวนนั้น แต่อาจจะต่างจากหลายพรรคการเมือง เพราะมีบุคลากรที่มีคุณภาพจากทุกรุ่น และคิดขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าทุกวัน เพราะการบ้านของประเทศ คือการบ้านของประชาธิปัตย์ 

"พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองของคนทุกรุ่น จะไม่มีอดีตกับปัจจุบัน แต่จะมีอนาคตต่อไป ตราบชั่วฟ้าดินสลาย" จุรินทร์ กล่าว