ไม่พบผลการค้นหา
นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พบหารือกับนายมาร์ก กุดดิง (H.E. Mr. Mark Gooding) เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย กระชับความร่วมมือด้านการค้า สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม และการปราบปรามยาเสพติด

วันนี้ (พุธที่ 19 มีนาคม 2568) นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พบหารือกับนายมาร์ก กุดดิง (H.E. Mr. Mark Gooding) เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย โดยทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ความสัมพันธ์ไทย-สหราชอาณาจักรมีความใกล้ชิดและยาวนาน และปี 2568 ยังครบรอบ 170 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน รวมถึงความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน ความมั่นคง และสิ่งแวดล้อม ระหว่างทั้งสองฝ่ายยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้มีการพูดคุยถึงความร่วมมือด้านการลงทุนและสาธารณสุข โดยเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรได้กล่าวชื่นชมประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านสาธารณสุขของภูมิภาค และแสดงความพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านการผลิตยากับไทย โดยเฉพาะบริษัท AstraZeneca ที่ประสงค์ขยายความร่วมมือกับบริษัทไทย ซึ่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความพร้อมของไทยในการต้อนรับการลงทุนจากสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะในด้านการแพทย์และเทคโนโลยีสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม การลงทุนเพื่อผลิตยาและเทคโนโลยีด้านสาธารณสุขจำเป็นต้องผ่านการพิจารณาตามขั้นตอนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ด้านการป้องกันและปราบปรามการลักลอบขนยาเสพติดและกัญชาจากไทยไปยังสหราชอาณาจักร ซึ่งเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรได้แสดงความกังวลถึงแนวโน้มของคดีที่เพิ่มขึ้น ด้านเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า รัฐบาลไทยตระหนักถึงความสำคัญของปัญหานี้ และมุ่งมั่นทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งของไทยและสหราชอาณาจักร เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการปราบปรามการลักลอบขนยาเสพติด

ด้านความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรยังได้กล่าวชื่นชมความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการรักษาสิ่งแวดล้อมและการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมแสดงความหวังว่าไทยจะเข้าร่วม Zero Emission Vehicle Declaration (ZEV) เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ยานยนต์ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงการส่งกลับชาวอุยกูร์ที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายกลับสู่ประเทศจีน โดยเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่า ไทยได้รับคำมั่นจากทางการจีนทั้งในวาจาและลายลักษณ์อักษรว่าจะดูแลความปลอดภัยของชาวอุยกูร์เมื่อเดินทางกลับ และจีนพร้อมเปิดโอกาสให้คณะจากไทยเดินทางไปตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ในภายหลัง รวมถึงไทยยังคงทำงานร่วมกับทางการจีนอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างมีมนุษยธรรม