กรรมาธิการการกฎหมาย (กมธ.) การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติเชิญบุคคลมาให้ข้อมูลต่อกมธ.ฯ ได้แก่ 1.ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ 2.ปลัดกระทรวงยุติธรรม 3.ผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด 4.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 5.พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก 6.ประธานคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ กรณีถูกการทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ 7.เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ 8.นายบาดาร์ ฟารุค ผู้แทนจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ และ 9.นายสุณัย ผาสุข ผู้แทนจากฮิวแมนไรท์ วอทซ์ เกี่ยวกับการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวไทย ที่ประเทศกัมพูชา  

ซึ่งเมื่อเริ่มประชุม นางสิตานันท์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาว นายวันเฉลิม ได้ลุกขึ้นสอบถาม 5 ประเด็นคือ

1.นายวันเฉลิม ถูกจับกุมตัวที่ประเทศกัมพูชาหรือไม่ ด้วยเหตุใด ปัจจุบันถูกควบคุมกักขังอยู่ในประเทศกัมพูชาหรือไม่ สถานที่ใด 

2.ทางการไทยได้รับแจ้งจากทางการกัมพูชาถึงการจับกุมตัว นายวันเฉลิม หรือไม่ 

3.ทางการไทยได้ขอให้ทางการกัมพูชาส่งตัวนายวันเฉลิม กลับมาดำเนินคดี ที่ไม่เข้ารายงานตัวตามคำสั่ง คสช.หรือไม่ หรือทางการกัมพูชาได้ส่งตัวนายวันเฉลิม กลับประเทศไทยหรือไม่ 

4.ตรวจสอบกรณีการกระทำทรมานและถูกบังคับให้สูญหาย ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อนายวันเฉลิม

5.หากทราบสถานที่กักขัง ควบคุมตัว สถานภาพ หรืแอกรณีเกี่ยวกับการกระทำทรมานและการบังคับให้สูญหาย ขอให้แจ้งให้ครอบครัวรับทราบ 

นอกจากนั้นยังมี ทั้งนายรังสิมันส์ โรม นางสาวพรรณิการ์ วานิช และ นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สอบถามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงความคืบหน้า

โดยนางอังคณาสอบถามกระทรวงการต่างประเทศว่า การช่วยเหลือล่าช้าไปหรือไม่ ด้านนาย ธนา เวสโกสิทธิ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ทางการไทยพยายามติดต่อกับทางการกัมพูชาตลอดไม่ล่าช้า เพราะทราบเรื่อง เมื่อ วันที่ 4 มิ.ย. 18.00น. และวันที่ 5 มิ.ย. ส่งข้อมูลถึง เอกอัครราชทูตกัมพูชา

ขณะนี้ต้องรอติดตามท่าทีการตอบสนองของประเทศกัมพูชา หากตอบสนองล่าช้าจะมีความกดดันจากรัฐบาลสู่รัฐบาลอยู่แล้ว แต่จะห้ามแทรกแซงการทำงานของประเทศกัมพูชา เพราะมีมิติความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และไม่ควรมุ่งประเด็นว่าถูกอุ้มหายเพียงอย่างเดียวอาจมีมูลเหตุอื่นๆ ด้วยซึ่งเป็นหน้าที่ของประเทศกัมพูชาที่ต้องหาข้อเท็จจริง 

ด้าน น.ส.พรรณิการ์ สอบถาม พล.ต.ต. วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ทราบหรือไม่ มีตำรวจเดินทางไปที่บ้านนายวันเฉลิมที่ จ.อุบลราชธานี และสอบถามแม่นายแม่วันเฉลิมว่า วันเฉลิมอยู่หรือไม่ ก่อนที่หลังจากนั้นประมาณ 20 วัน นายวันเฉลิมจะถูกอุ้มหาย 

ด้าน พล.ต.ต. วรวัฒน์ ชี้แจงว่า ไม่ทราบว่ามีตำรวจไปติดตามนายวันเฉลิมที่ จ.อุบลราชธานี แต่จะนำเรื่องนี้ไปรายงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขอข้อมูลต่อไป พล.ต.ต. วรวัฒน์ ยังให้ข้อมูลอีกว่า นายวันเฉลิมมีคดีอยู่ 3 คดี คือ 1 ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ไม่ไปรายงานตัว 2.ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 3.ผิด ม.116 ยุยงปลุกปั่น ยืนยัน นายวันเฉลิมไม่มีข้อหา ม.112 

ข้อมูลนี้สอดคล้องกับ พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก ระบุว่า นายวันเฉลิม ไม่ได้ถูกดำเนินคดีตาม ม.112 พร้อมระบุอีกว่า ปัจจุบันแนวทางในดำเนินคดี 112 ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ไปแล้วนั้น ฝ่ายกฎหมายของกองทัพจะไม่ใช้กฎหมายนี้เช่นกัน แต่ใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ แทน ยืนยัน ไม่เห็นด้วยที่ใครจะถูกอุ้ม จากการกระทำผิดใดๆก็ตาม  

ก่อนปิดการประชุม นายรังสิมันส์โรม ได้เสนอต่อที่ประชุม คือ ทุก 1 เดือนเสนอ รายงานความคืบหน้าการติดตามคดีวันเฉลิม 2.ทหารและตำรวจต้องแจ้งข้อมูลบุคคลที่ถูกดำเนินคดี ม.112 ที่อยู่นอกประเทศมีกี่คน

ด้านนางสิตานันท์ เปิดเผยหลังเข้าประชุมกมธ.ว่า พอใจเป็นอย่างมากที่ทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือ เพราะก่อนหน้านี้ ทั้งนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศพยายามเลี่ยงตอบคำถามมาโดยตลอด แต่จากนี้จะติดตามความคืบหน้าต่อไป

อ่านเพิ่มเติม

• สมาคมสิทธิฯ ขอรัฐเลิกใช้ ก.ม.ปิดกั้นเสรีภาพ กรณีถามหา 'วันเฉลิม'
• กัมพูชา ยังไร้เบาะแส 'วันเฉลิม' หายตัว
• ออกหมายเรียก 'นักกิจกรรม' รวมตัวร้องปม 'วันเฉลิม' ถูกอุ้ม