เมื่อวันที่ 18 ก.ค. นายสุชัย เทพหัสดิน ณ อยุธยา ในฐานะเลขาของราชสกุลเทพหัสดินฯ พร้อมด้วย นายณัฐพล ทองคำ ทนายความ แถลงข่าวเกี่ยวกับคดีของ น.ส.แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือ บัวบูชา หรือ รวินภิรมย์ อรุณวงศ์ ในการช่วยเหลือผู้เสียหาย รวมถึงข้อพิพาทต่อราชสกุลฯ

นายณัฐพล ยืนยันว่าทางราชกุลไม่เคยนิ่งนอนใจ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต้องกราบขออภัยจากใจและขอขมาทุกท่านที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุในครั้งนั้น ตลอดมาพวกเราไม่เคยลืมอุบัติเหตุสะเทือนขวัญ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้นก็ได้ผลักดันให้ทางครอบครัวของนางสาวแพรวาปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่ให้หนีไปไหน

ทางราชสกุลติดตามข่าวมาตลอด ได้ทราบว่านางสาวรวินภิรมย์ ได้ถูกตัดสินให้รับโทษในคดีอาญาเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยความน้อมรับไม่เคยคิดหนีคดี ซึ่งเมื่อสอบถามไปยังครอบครัวของนางสาวรวินทร์ภิรมย์ หลายครั้งได้รับคำตอบว่าคดีสิ้นสุดแล้วทุกครั้ง ทางราชสกุลจึงวางใจและไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวของนางสาวรวินทร์ภิรมย์เนื่องจากสมาชิกราชสกุลเทพหัสดิน นั้นมีการลงทะเบียนไว้ร่วม 200 ครอบครัว ซึ่งแต่ละครอบครัวก็ได้แยกย้ายไปดำรงชีวิตตามลักษณะครอบครัวเดียวในปัจจุบัน 

จนหลายวันที่ผ่านมาทางราชสกุลได้รับทราบพร้อมพี่น้องประชาชนว่าหลังจากคดีสิ้นสุดครอบครัวผู้ประสบเหตุยังไม่ได้รับการติดต่อจาก ครอบครัวของนางสาวรวินทร์ภิรมย์ ซึ่งต้องขอขอบพระคุณ นายวรัญญู เกตุชู หนึ่งในผู้ประสบเหตุและสื่อมวลชนหลายสำนักที่เป็นสื่อกลางกระบอกเสียงส่งข่าวให้ได้รับทราบข้อเท็จจริง เมื่อได้ทราบข่าวจึงเรียกประชุมทันทีแต่เนื่องจากทางราชสกุล มีสมาชิกจำนวนมากการนัดหมายพร้อมเพียงกันนั้นจึงต้องใช้เวลาแต่เมื่อได้ทำการประชุมแล้วได้ข้อสรุปหลายประการ

ขอหยุดเหมารวม

นายณัฐพล กล่าวว่า ขณะนั้นทางโลกออนไลน์ได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงถึงราชสกุลเทพหัสดิน ทั้งที่ไม่ได้รู้จักพวกเราและยังไม่ทราบถึงความตั้งใจจริงที่จะเรียกประชุมทันทีที่ทราบข่าว บางคนใช้คำพูดรุนแรงไม่สุภาพพาดพิงถึงบรรพบุรุษ ผู้ล่วงลับ ทางผู้ใหญ่ในราชสกุลจึงให้ข่าวกับสื่อหนึ่งว่าพวกเราไม่ได้นิ่งนอนใจเมื่อทราบข่าวกำลังเร่งดำเนินการกับเรื่องนี้ จึงขอวอนให้หยุดพาดพิง ถึงบรรพบุรุษและราชสกุลเนื่องจากเป็นสิ่งผิดกฎหมายไม่อยากให้เกิดความแตกแยกแตกร้าวในสังคม

ส่วนกรณีที่ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ออกมาตักเตือนการใช้วาจาในการแสดงความคิดเห็นในโลกโซเชียลในฐานะผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเพียงเท่านั้น เพราะมีความห่วงใยไม่อยากให้เรื่องราวบานปลายเนื่องจากสมาชิกราชสกุลมีหลายครอบครัวและจำนวนมากหากเกิดการพาดพิง แบบไม่ยุติธรรมต่อบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้วนั้นสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ทางเราไม่อาจทราบได้ว่าจะมีครอบครัวใดทำการร้องทุกข์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในกรณีนี้ขึ้นมาหรือไม่

"เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัวและขอให้อย่าเหมารวม ขอให้เเสดงความคิดเห็นอย่างเป็นธรรมต่อราชสกุลเทพหัสดิน"

ช่วย 5 แสน

นายณัฐพล กล่าวว่า ทางราชสกุลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและกราบขอขมาต่อครอบครัวผู้ประสบเหตุอีกครั้งทั้งใคร่ขอแสดงน้ำใจมา ณ ที่นี้ ขอมอบเงิน 5 แสนบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุไว้สำรองใช้จ่ายในการติดตามบังคับคดีสืบทรัพย์ตามกฎหมายหลังจากนี้ต่อไป

ในนามราชสกุลเทพหัสดิน ขอเรียกร้องให้ครอบครัวของ นางสาวรวินทร์ภิรมย์ น้อมรับปฏิบัติตามคำพิพากษา อีกทั้งเร่งดำเนินการให้ทุกอย่างเรียบร้อยไปด้วยดีภายใต้คุณธรรมจริยธรรมอันดีและเมื่อคดีต่างๆ สิ้นสุดลงไปแล้วขอวอนต่อสังคมในคราวเดียวกันนี้ให้โอกาสต่อนางสาวรวินทร์ภิรมย์ซึ่งในขณะนั้นเป็นเพียงเยาวชนและไม่ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้นได้มีโอกาสแสดงความรับผิดชอบ นอกจากไม่หลบหนีไปไหนและน้อมรับโทษทุกประการแล้ว ก็ขอให้ได้แสดงความรับผิดชอบจัดหาทรัพย์มาเยียวยาต่อครอบครัวผู้ประสบเหตุจนครบถ้วน ส่วนการเยียวยาจะเป็นรูปแบบใดจะได้ตกลงกับผู้ประสบเหตุต่อไป 

ทั้งนี้ทนายความประจำราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา อยากให้แพรวา ออกมาขอโทษสังคมอย่างจริงใจผ่านสื่อมวลชน พร้อมยืนยันว่าคนในราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา ไม่เคยปกป้องคนที่ทำผิด

เทพหัสดินไม่รวยทุกคน

นายสุชัย กล่าวว่า ขอพูดอย่างไม่อายเลย คนในราชกุลนี้หลายคนไม่มีเงิน ฐานะไม่ค่อยดี บ้างรับราชการหรือค้าขายเท่านั้น รวมเงินกันเป็นกองทุนแล้วได้แค่ 5 แสนบาท ยืนข้างผู้เสียหาย อยากให้ครอบครัวแพรวา ชดใช้ผู้เสียหาย โดยหลังเกิดเหตุเมื่อ 9 ปีก่อน พ่อของ "แพรวา" มาขอโทษกรรมการราชสกุลเทพหัสดิน ที่ทำให้ราชสกุลเสียหาย

นอกจากนี้ ราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา กราบขออภัยขอขมา อีกครั้งต่อทุกครอบครัวทุกชีวิตที่เกี่ยวข้องในอุบัติเหตุตลอดจนกราบขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณามาร่วมในงานแถลงข่าวกรุณาให้โอกาสเราได้เรียนชี้แจงถึงประเด็นต่างๆ ในครั้งนี้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าว นายณัฐพลได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังหนึ่งในผู้ประสบเหตุและได้บาดเจ็บเพื่อชี้แจงให้ทราบถึงเงินกองกลางช่วยคดีดังกล่าว แต่ได้รับการ 'ปฏิเสธ' โดยระบุว่าให้นำเงินส่วนนี้ไปมอบต่อครอบครัว น.ส.แพรวา เพื่อนำมาชดใช้ตามคำพิพากษาศาล และจะขอนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับทีมทนายความต่อไป