10 เม.ย. เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบาย พรรคเพื่อไทย ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) วราวุฒิ ยันต์เจริญ กรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. ดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กทม.พรรคเพื่อไทย ประภัสร์ จงสงวน ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อุเมสนัส ปานเดย์ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย พบปะผู้ประกอบการ SME ณ ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย ซอยพัฒนาการ 35 กรุงเทพมหานคร
พร้อมล้อมวงคุยในหัวข้อ “สวนหลวง-ประเวศ แลนด์สไลด์ สะเทือนถึงดวงดาว ปลดปล่อยศักยภาพเศรษฐกิจไทย” โดยมีตัวแทนผู้ประกอบการจากหลากหลายสาขา เช่น ผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยว , ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม , อสังหาริมทรัพย์ ,ประกันภัย, E-sport ,Startup, E-Commerce & Social Commerce ร่วมหารือ แลกเปลี่ยน ตั้งคำถามในนโยบายต่างๆ กับพรรคเพื่อไทยอย่างคึกคัก
เศรษฐา กล่าวว่า หลังจากเปิดตัวนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท สำหรับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 ได้รับความชื่นชมจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง หากพรรคการเมืองอื่นๆ ด้อยค่านโยบายนี้ ขอพี่น้องประชาชนอย่าหวั่นไหว เลือกพรรคเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค เมื่อได้จัดตั้งรัฐบาล กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะเข้าถึงพี่น้องประชาชนที่เข้าเกณฑ์แน่นอน
เศรษฐา เน้นย้ำว่า การใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ใช้ในรัศมี 4 กิโลเมตรจากที่อยู่อาศัยตามบัตรประชาชนภายใน 6 เดือน โดยมุ่งหวังกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน กระจายความเจริญออกไปทุกหัวระแหงของประเทศไทย เพื่อให้เกิดการใช้จับจ่ายอย่างรวดเร็ว หากในบ้านมีคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป มากกว่า 1 คน คูณตามจำนวนคน สามารถนำไปสร้างงาน สร้างอาชีพได้
“พรรคเพื่อไทยคิดใหญ่ ทำเป็น และเราทำได้ ตอนนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะ เรื่องเศรษฐกิจไม่ต้องห่วง พรรคเพื่อไทยมีบุคลากรเพียบพร้อม ขณะที่เรื่องจิตใจ สังคม อิสระภาพ ซึ่งพี่น้องให้ความสำคัญ พรรคเพื่อไทยไม่เคยละทิ้งเรื่องนี้ เช่น เรื่องสิทธิเสรีภาพ การเกณฑ์ทหาร ที่เรามีนโยบายเกณฑ์ทหารสมัครใจ เพื่อตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนที่ต้องการไปประกอบอาชีพอื่นๆ หลังจากผ่านการเกณฑ์ทหาร เราให้ความสำคัญกับทุกความต้องการของพี่น้องประชาชน” เศรษฐา กล่าว
ด้าน นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญของพรรคเพื่อไทยที่สืบทอดเจตนารมณ์จากพรรคไทยรักไทย และพลังประชาชน คือ พรรคเพื่อไทย หัวใจคือประชาชน การรณรงค์เพื่อให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐ ได้จัดตั้งรัฐบาลเพื่อสร้างรายได้ ประชาชนกินดี อยู่ดี ให้ทุกคนอยู่ได้อย่างแข็งแรง เพื่อเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งเป็นมาตรการระยะสั้นเสมือนการปั๊มหัวใจของประชาชน เรายังมีนโยบายอื่นๆ เพื่อฟื้นคืนความสง่างามของประเทศไม่ให้รั้งท้ายอาเซียนอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เช่น นโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ เป็นต้น
ทั้งนี้ตัวแทนจากผู้ประกอบการกลุ่มต่างๆ และประชาชนได้ทยอยสอบถาม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพรรคเพื่อไทย ในประเด็นต่างๆ เช่น
1.พรรคเพื่อไทยมีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านเนื้อหา หรือคอนเทนต์อย่างไร ซึ่งนายอรรฆรัตน์ นิติพน ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม. เขตประเวศ (ยกเว้นแขวงหนองบอน) เขตสะพานสูง (เฉพาะแขวงทับช้าง) เบอร์ 13 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์อย่างเป็นระบบผ่าน องค์กรที่จะจัดตั้งขึ้นมา ชื่อ THACCA ซึ่งจะพัฒนาระบบ และบูรณาการทุกอย่าง ครบไว้ที่นี่
2.พรรคเพื่อไทยจะนำเอาเทเลเมดิซีนมาใช้ในวงกว้างอย่างไร ซึ่ง ธกร เลาหพงศ์ชนะ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม. เขตสวนหลวง เขตประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอน) พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในอนาคตข้างหน้าจะมีการนำเทเลเมดิซีนมาใช้ ซึ่งเบื้องต้นจะมีการนำมาปรึกษาเพื่อรักษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในเบื้องต้น และจะ ช่วยให้คนไทยเข้าถึงสาธารณสุขได้ง่ายขึ้น
3.พรรคเพื่อไทยมีนโยบายส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศอย่างไร ดร.ปานปรีย์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาการค้า การส่งออก มีการให้ความสำคัญน้อยลง ไม่มีการเปิดตลาดการค้าใหม่ๆ ประเทศไทย เป็นประเทศแรกที่เปิดการค้าเสรี แต่มาระยะหนึ่งไม่มีใครให้ความสนใจ จนทำให้เวียดนามแซงหน้าไป พรรคเพื่อไทยมาจะนำพาการลงทุนเข้าประเทศ ส่งออกให้มากขึ้น และส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
4.พรรคเพื่อไทยจะมีการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ในปี 2566 อย่างไร นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบาย พรรคเพื่อไทย และประธานกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หนึ่งในปัญหาที่พรรคเพื่อไทยจะเข้าไปแก้ไขเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวมากขึ้น เช่น ปัญหาบุคลากรตรวจคนเข้าเมืองในสนามบินนานาชาติไม่เพียงพอ จนทำให้ผู้โดยสารต่างชาติไม่ได้รับสะดวกต้องรอ 3-4 ชั่วโมง สามารถแก้ไขปัญหาได้โดยเพิ่มบุคลากรจัดการที่ ตม. เปิดบริการสนามบินนานาชาติ ซึ่งมี 8 แห่ง ต้องเปิดให้ครบ
“เราจะไม่กอดกฎหมาย เงินมารออยู่หน้าประตูแล้ว เราจะจัดการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้น” นพ.พรหมินทร์ กล่าว