ความร่วมมือของสามยักษ์ใหญ่วงการสมาร์ตโฟนนี้ จะทำให้ในอนาคตระบบปฏิบัติการ MIUI ของเสี่ยวมี่ (Xiaomi), ColorOS ของออปโป้ (Oppo) และ FuntouchOS ของวีโว่ (Vivo) สามารถแชร์ไฟล์ระหว่างกันข้ามค่ายได้โดยไม่ต้องลงแอปฯ เพิ่มเติม รองรับการส่งไฟล์หลายชนิด ทั้งไฟล์เอกสาร ภาพ เสียง วิดีโอ ฯลฯ ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 20 เมกะไบต์ต่อวินาที (MB/s) โดยใช้บลูทูธในการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ และคาดว่าน่าจะใช้ไวไฟร่วมด้วยเช่นเดียวกับแอร์ดรอปของแอปเปิล

ระบบแชร์ไฟล์ให้กันโดยตรงนี้ จะเริ่มให้บริการในขั้นทดสอบภายในสิ้นเดือนนี้

แอร์ดรอป (Airdrop) เป็นบริการส่งไฟล์ระหว่างกันไร้สายของอุปกรณ์แบรนด์แอปเปิลโดย ไม่พึ่งพาอินเทอร์เน็ต ใช้เพียงบลูทูธร่วมกับไวไฟ และเป็นการส่งระหว่างผู้ใช้งานโดยตรง (Peer-to-peer: P2P) ไม่ต้องอัปโหลดขึ้นเซิร์ฟเวอร์กลางก่อนค่อยดาวน์โหลดแบบการส่งอีเมลหรือกูเกิลไดรฟ์ นับเป็นการสร้างอีโคซิสเต็มหรือระบบนิเวศที่ให้ความสะดวกกับผู้ใช้งานภายในแบรนด์

ทางกูเกิลเองก็เคยพยายามจะสร้างบริการส่งไฟล์ลักษณะคล้ายกันขึ้นมาเช่นกัน ในชื่อ แอนดรอยด์บีม (Andriod Beam) ซึ่งใช้การเชื่อมต่อแบบเอ็นเอฟซี (Near field communication: NFC) หรือการสื่อสารสนามใกล้ ที่ต้องนำมือถือมาแตะกันในระยะใกล้มากเพื่อส่งไฟล์ ซึ่งไม่ได้รับความนิยมนัก กระทั่งกูเกิลถอดบริการนี้ออกไปจากแอนดรอยด์ คิว ระบบปฏิบัติการของกูเกิล โดยนำบริการฟาสต์แชร์ (Fast Share) มาทดแทน

อย่างไรก็ตาม แม้ฟาสต์แชร์อาจจะมีโอกาสเป็นเหมือนแอร์ดรอปสำหรับแอนดรอยด์ แต่ฟาสต์แชร์ก็เป็นบริการส่วนหนึ่งของกูเกิลเพลย์เซอร์วิส (Google Play Services) ซึ่งสมาร์ตโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ในจีนนั้นไม่มี เนื่องจากรัฐบาลจีนปิดกั้นการใช้งานอินเทอร์เน็ตบางส่วน

ความร่วมมือกันสร้างอีโคซิสเต็มระหว่างกันของสมาร์ตโฟนรายใหญ่ทั้งสามเจ้าซึ่งมีส่วนแบ่งรวมกันราวครึ่งหนึ่งของตลาดสมาร์ตโฟนจีนจึงเป็นเรื่องที่น่าจับตามอง โดยยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสมาร์ตโฟนที่ใช้ระบบส่งไฟล์ข้ามค่ายนี้จะมีเพียงสามเจ้าหรือไม่ เนื่องจากเสี่ยวหมี่ระบุในวีแชต (WeChat) ว่าหากแบรนด์สมาร์ตโฟนเจ้าใดสนใจก็สามารถร่วมได้

เบ็น ซิน (Ben Sin) นักข่าวสายเทคโนโลยีของฟอร์บส วิเคราะห์ว่าทั้งสามค่ายต้องการชวนแบรนด์ร่วมชาติอย่างหัวเว่ยมาร่วมด้วย แต่เขามองว่าหัวเว่ยไม่น่าจะเข้าร่วมด้วยในงานนี้ เนื่องจากหัวเว่ยมีแนวโน้มที่จะพยายามพัฒนาอีโคซิสเต็มเป็นของตัวเอง โดยมีวันฮอป (Onehop) ซึ่งใช้ส่งไฟล์จากมือถือลงเมตบุ๊ก (MateBook) โน้ตบุ๊กของหัวเว่ยได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว อีกทั้งหัวเว่ยยังวางตัวห่างออกมา ไม่ทำตัวเป็นคู่แข่งของแบรนด์จีนด้วยกันกับทั้งสามแบรนด์ แต่สู้กับแบรนด์ระดับโลกอย่างซัมซุงและแอปเปิลมากกว่า

ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกของปีนี้ เสี่ยวหมี่ ออปโป และวีโว่ รวมกันแล้วมีส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตโฟนในประเทศจีน 49 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่หัวเว่ยซึ่งอยู่อันดับหนึ่งนั้นมีส่วนแบ่งตลาดเพียงผู้เดียวถึง 34 เปอร์เซ็นต์

ที่มา: Verge / Forbes / 9to5Google / Xda-developers