ไม่พบผลการค้นหา
'ศรีโสภา' มั่นใจ พ.ร.บ.อากาศสะอาดเครื่องมือสำคัญใช้สู้ PM2.5 ได้ ชี้ชาวเชียงใหม่เฝ้าระวังไฟป่าทุกพื้นที่ พร้อมแนะวิธีการทำลายขยะทางการเกษตรลดควันพิษได้

ศรีโสภา โกฎคำลือ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ปัญหามลพิษทางอากาศหรือฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือที่ยังไม่ได้รับผลประทบรุนแรงมากนัก เนื่องมาจากสภาพป่าที่ยังคงมีความชุมชื้นมากจึงไม่ยังไม่ส่งผลให้เกิดไฟป่า รวมทั้งยังไม่ใช่ช่วงที่มีการทำการเกษตรหรือไร่ข้าวโพดรอบใหม่จึงไม่มีการเผาทำลายตอซังข้าวโพด ดังนั้นปัญหาหมอกควันจึงยังมีไม่มาก 

ปัญหาหมอกควันภาคเหนือจะหนักสุดช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนเมษายนของทุกปี เพราะสภาพป่าแห้งจึงอาจก่อให้เกิดไฟป่าซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาได้ ดังนั้นในปีนี้ รัฐบาลและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ ร่วมแรงร่วมใจกันเฝ้าระวัง ปัญหาไฟป่า รวมทั้งหามาตรการในการลดการเผาขยะทางการเกษตร เปลี่ยนจากการเผาเป็นการฝังกลบหรือหากเผาก็ให้เกิดผลกระทบทางอากาศน้อยที่สุด ซึ่งสามารถช่วยลดปัญหาฝุ่น PM2.5 เบาบางลงได้ในระดับหนึ่ง ถือเป็นการร่วมมือกันของพี่น้องประชาชน

ศรีโสภา กล่าวด้วยว่า ในส่วนของปัญหาหมอกควันข้ามแดนนั้น ที่ผ่านมาทางรัฐบาลมีการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังมีการแนะวิธีการทำลายขยะทางการเกษตรให้กับผู้ประกอบการในประเทศเพื่อนบ้าน ทำความเข้าใจกันระหว่างรัฐต่อรัฐ ส่งผลให้การเผาทำลายไร่ข้าวโพดเพื่อฤดูการปลูกใหม่นั้นลดลงไปด้วย 

“ดังนั้นปัญหา PM2.5 การที่กำลังโจมตีประเทศไทยอยู่ในขณะนี้ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่กระทบกับการดำรงค์ชีวิตของพี่น้องประชาชน และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามที่จะลดปัญหาให้ได้มากที่สุด รวมทั้งการเดินหน้าพระราชบัญญัติอากาศสะอาด เพื่อเป็นเครื่องมือในการต่อสู้กับ PM2.5 มั่นใจว่าหากพระราชบัญญัติอากาศสะอาด ผ่านสภาประเทศไทยจะมีอาวุธสู้กับฝุ่นพิษ PM2.5ที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุด” ศรีโสภา กล่าว