วันที่ 30 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงต่อสื่อมวลชนถึงกรณีที่มีการพาดพิงที่ปรึกษามีส่วนเกี่ยวข้องกับการรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว โดยถามสื่อมวลชนกลับว่า “ขอให้หลับตานึกว่า กระทรวงเกษตรฯ เป็นผู้เสียหาย”
ร.อ.ธรรมนัส เปิดเผยอีกว่า ตนในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา และมีความสนิทสนมกับอธิบดีกรมการข้าวรวมถึงภรรยา เนื่องจากรู้จักกันมาก่อน ทุกเรื่องที่ผู้ใต้บังคับบัญชามีความทุกข์ก็จะมารายงาน ตั้งแต่ต้นจนถึงปลายเรื่อง ตนรับรู้มาตลอด แต่ส่วนตัวไม่อยากพูดมาก เกรงว่าจะไม่เกิดประโยชน์และจะเป็นการแทรกแซงกระบวนการ
ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า สารตั้งต้นทุกอย่าง ตั้งแต่สารตั้งต้นจนถึงการนำจับ ตนทราบทุกอย่าง ตนจึงแนะนำให้ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ซึ่งตนเองมีฝ่ายกฎหมายกว่า 20 คน และอธิบดีมีการปรึกษามาโดยตลอด พร้อมย้ำว่า ขออย่ามองกระทรวงเกษตรเป็นผู้ร้าย เนื่องจากกระทรวงเกษตรเป็นผู้ถูกกระทำ ตนจึงฝากไปยังสื่อมวลชน และนักร้องเรียน เวลาจะพูดอะไร รวมถึงการเปิดคลิป ขอให้เปิดให้หมด อย่าโจมตีกระทรวงเกษตรฯ
“เราเป็นผู้เสียหาย ผมติดตามมาโดยตลอด ซึ่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก็ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อว่า กระทรวงเกษตรฯ เป็นผู้เสียหาย โดยเฉพาะอธิบดีกรมการข้าวถูกกระทำ ตอกย้ำว่า ในเมื่อลูกน้องถูกกระทำจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์อะไรเลยเถิด” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
โดย ร.อ.ธรรมนัส ยังระบุอีกว่า เมื่อพูดคุยกันแล้ว ให้ตัวแทนไปคุยแล้ว แต่ไม่จบก็ไม่ต้องคุยกัน พร้อมกับกล่าวย้ำว่า อย่าไปสงสัยที่ปรึกษาตน ตนมั่นใจว่า ที่ปรึกษาเวลาจะทำอะไร ไม่ทำโดยพละการ ไม่มีใครทำผิดกฎหมาย มีแต่จะจัดการกับผู้กระทำผิดกฎหมายบ้านเมือง เรากำลังช่วยกันปัดกวาดบ้านเมืองให้สะอาด อย่าปล่อยให้มันเลอะเทอะเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้ตนรายงานต่อนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด ตนจึงอยากถามสื่อมวลชนกลับว่า ไม่สงสัยหรือที่นายกรัฐมนตรีไม่ตอบประเด็นนี้
เมื่อถามว่า นอกจากกรมการข้าวยังมีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ถูกกระทำในลักษณะเดียวกันใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นไปตามที่รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงเกษตร แต่ขึ้นอยู่กับกรม แต่ละกรมที่จะขึ้นมาต่อสู้ กับขบวนการดังกล่าว ที่ผ่านมาทำให้สังคมวุ่นวาย ทำให้สังคมเกิดความสับสน
รวมถึงจากการนำเสนอข่าวที่ผิดประเด็นในหลายๆ เรื่อง ในฐานะที่เป็นผู้บริหารบ้านเมือง โดยเฉพาะในกระทรวงเกษตร ต้องกล้านำเสนอในสิ่งที่ถูกต้อง กล้าที่จะปกป้องลูกน้องตัวเองหากไม่ผิด ที่ผ่านมาทุกเรื่องที่ได้รับร้องเรียน ตนก็ตั้งคณะกรรมการสอบทุกเรื่อง ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ตั้งคณะกรรมการสอบกรมการข้าว พบว่าไม่มีมูลความผิด ซึ่งกรณีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเงิน 15,000 ล้านบาท
ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า กระทรวงเกษตรฯ ไม่ได้ใช้เลย แต่นำส่งคืนไปช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท จำนวน 20 ไร่/ครัวเรือน จึงอยากให้นำเสนอข้อเท็จจริงอย่าเบี่ยงเบนประเด็น ให้กระทรวงเกษตรฯ ตกเป็นจำเลย พร้อมย้ำว่า อยากให้สื่อมวลชนนำเสนอให้ถูกต้องเวลาไปเปิดคลิป ขอให้เปิดคลิปเต็ม และยืนยันว่า ตนมีคลิปยาว เพราะตนรู้แต่แรกว่าเกิดอะไรขึ้น และรู้ว่าลูกน้องกำลังถูกรังแก
โดย ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า ไม่มีการเข้ามาพูดคุยกับตนในประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด ทุกวันนี้ตนทำงานแทบจะไม่ได้อยู่ในกระทรวง พร้อมกล่าวว่า ผู้ที่กล่าวอ้างจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด ทั้งในเรื่องส่วนตัว นอกจากนี้ ตนกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในกระทรวงเกษตร ว่าไปพบใครไปเพื่ออะไร และเมื่อบ้านผมสกปรก ผมต้องปัดกวาดเอง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ
ร.อ.ธรรมนัส ยังฝากไปถึงบุคคลที่ชอบ โหนกระแส หรือหิวแสง ขอให้พึงระวัง เพราะตนบอกแล้วว่าจะเอาจริงเอาจัง พร้อมกับกล่าวย้ำว่า บอกแล้วไงว่ากระทรวงเกษตรมีเบ็ดติดรอบ เบ็ดตัวไหนที่เอาเหยื่อไปล่อปลา ระวังจะตายเพราะปาก
เมื่อถามว่า วงจรปิดที่จะตรวจสอบมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้เมื่อใดนั้น ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ไม่ใช่เรื่องยาก หากไม่มีใครไปไล่ลบข้อมูล และหากใครลบข้อมูลโดนผมแน่ พร้อมกล่าวว่า เจ๋ง ไปหาใคร ไปแล้วไปพูดเรื่อยเปื่อย ทำให้เสียหายหมด ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ และกรรมาธิการต่างๆ เขาไปรับรู้อะไรกับคุณ ดังนั้นการนำเสนอข่าว ขอให้นำเสนอให้ถูกต้อง ครบถ้วน ไม่เช่นนั้นสื่อเองจะถูกมองว่าเป็นสื่อที่ไร้สาระ ไม่ยอมนำเสนอ สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง และที่ผ่านมาตนเอง เข้ามาปัดกวาด ทำงานในกระทรวงเกษตรระยะเวลา 4 เดือน สิ่งดีๆ ที่ทำมากลับไม่นำเสนอ แต่พอเป็นประเด็นมาหน่อย กลับนำไปแฉ หรือขยายต่อในทางที่ผิด ขออย่าไปทำระหว่างเดือดร้อน
ส่วนกรณีที่มีการพาดพิงถึงรัฐมนตรีช่วย ตนก็ได้ติดตามเช่นกัน ซึ่งข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวก็ยังไม่รู้ ซึ่งต้องรอการตรวจสอบก่อน และยังไปพาดพิงถึงที่ปรึกษารัฐมนตรีบางท่าน แต่โชคดีที่อธิบดีกรมการข้าว มาปรึกษาที่ปรึกษาผม
อย่างไรก็ตามที่มีการพาดพิงรัฐมนตรีช่วยคนหนึ่งนั้นเรายังไม่รู้เลยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ต้องรอการตรวจสอบก่อน และที่มีการพาดพิงที่ปรึกษาบางท่าน ซึ่งหวังดีที่อธิบดีกรมการข้าวและภรรยามาปรึกษา เขาก็พาไปพบหรือไม่ไปพบ เรื่องอะไรยังไม่ทราบ เสนอแต่มีการนำเสนอว่าไปจ่ายเงินจ่ายทอง คนไม่โง่หรอกที่จะจ่ายเงิน
รวมถึงการที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เช่นนี้ แสดงว่าเขาถูกลุกลามจนถึงครอบครัว เขาถึงกล้ามาชน ซึ่งมาปรึกษากับตน ตนระบุไว้ว่าถ้าไม่สามารถเจรจากันได้ก็ว่ากันไปให้พังไปข้าง ตนเลยถามว่า กล้าชนหรือไม่ เมื่อเขาว่ากล้าชนก็เป็นไปตามข่าวที่ออกมา และขอย้ำว่า อย่ามองกระทรวงเกษตรในทิศทางที่ผิด