นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น เปิดเผยในเฟซบุ๊กไลฟ์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาหลังการประชุมภาคอุตสาหกรรมบริการในเมืองโรโตรัว แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของนิวซีแลนด์ โดยบอกว่าได้ยินคนจำนวนมากแนะนำว่าการลดจำนวนวันทำงานต่อสัปดาห์ลงไป รวมถึงการเพิ่มวันหยุดราชการ เป็นวิธีการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในประเทศ ในขณะที่นิวซีแลนด์ยังคงปิดพรมแดนไม่ให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ
โดยผู้นำนิวซีแลนด์ระบุว่าการท่องเที่ยวของประเทศได้รับผลกระทบหนักมาก และการทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน จะทำให้ประชาชนสามารถเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้ง่ายขึ้น ชาวนิวซีแลนด์จำนวนมากบอกว่าพวกเขาจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น หากมีชีวิตการทำงานที่ยืดหยุ่นมากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับนายจ้างและพนักงานว่าจะตัดสินใจลดจำนวนวันทำงานต่อสัปดาห์หรือไม่ แต่ก็สนับสนุนให้นายจ้างลองพิจารณาเงื่อนไขนี้ว่าจะสามารถทำได้กับองค์กรของตัวเองหรือไม่ เพราะแน่นอนว่าเงื่อนไขทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์จะเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวทั่วประเทศ
เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์ โดยเมื่อปี 2562 ทำเงินให้กับประเทศมากถึง 16,200 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นร้อยละ 6 ของจีดีพี กล่าวคือในจำนวนชาวนิวซีแลนด์ทุกๆ 8 คน จะมี 1 คนที่ทำงานในภาคเศรษฐกิจนี้
อย่างไรก็ตาม กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์จะหดตัวถึงร้อยละ 8 ในปีนี้ ขณะที่ตัวเลขการว่างงานอาจสูงเกินร้อยละ 15 และอาจแตะสูงสุดถึงร้อยละ 30 ซึ่งรายงานระบุว่าความเห็นอย่างไม่เป็นทางการนี้ของนายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นก็สร้างความตื่นเต้นให้กับชาวนิวซีแลนด์จำนวนมาก ที่หลายคนตั้งคำถามว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงระบบหรือวิถีชีวิตอย่างไรหรือไม่จากการระบาดใหญ่ของโควิด-19
หลายประเทศรวมถึงฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ได้ปรับลดชั่วโมงการทำงานลง ส่วนในนิวซีแลนด์ก็มีบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์อย่างบริษัท 'เพอร์เพทชวล การ์เดียน' (Perpetual Guardian) ที่เมื่อปี 2560 ได้ลดวันทำงานลงเหลือ 4 วันต่อสัปดาห์ โดย 'แอนดรูว์ บาร์นส์' ผู้ก่อตั้งบริษัทแห่งนี้บอกว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้พนักงานมีความสุขขึ้นและมีผลิตภาพในการทำงานมากขึ้น การทำงานสัปดาห์ละ 4 วันยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและจิต สิ่งแวดล้อม ครอบครัวและชีวิตทางสังคม โดยมองว่านิวซีแลนด์สามารถเปลี่ยนไปทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ได้อย่างแน่นอนหลังโควิด-19 และนี่จะเป็นยุทธศาสตร์ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะตลาดการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
นิวซีแลนด์เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ได้รับเสียงชื่นชมในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 รัฐบาลได้ตัดสินใจล็อกดาวน์อย่างรวดเร็ว ซึ่งภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 ที่บังคับใช้เป็นเวลา 1 เดือน ได้ห้ามประชาชนมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่อยู่นอกบ้าน มีเพียงซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายยาเท่านั้นที่เปิดทำการ แต่ล่าสุดรัฐบาลก็ได้คลายมาตรการล็อกดาวน์แล้วเมื่อช่วงปลายเดือนเม.ย. และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานการระบาดระลอก 2 โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสถานที่ทำงานต่างๆ ของนิวซีแลนด์สามารถกลับมาเปิดทำการได้แล้วหลังนายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นยกเลิกข้อห้ามเกือบทั้งหมด เช่นเดียวกับอนุญาตให้เปิดร้านอาหาร บาร์ ห้างค้าปลีกและโรงเรียนอีกครั้ง โดยยังคงต้องรักษาระยะห่างทางสังคม นอกจากนี้ผู้ที่พำนักในนิวซีแลนด์ยังได้รับอนุญาตให้เดินทางข้ามภูมิภาค รวมถึงสามารถจัดกิจกรรมที่มีคนรวมตัวกันได้สูงสุด 10 คน
ขณะที่ผลสำรวจจาก Newshub-Reid Research ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาชี้ว่า ผลงานจากการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทำให้นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นกลายเป็นผู้นำที่ได้รับความนิยมสูงสุดในรอบ 1 ศตวรรษของนิวซีแลนด์ คะแนนความนิยมในพรรคแรงงานของเธอพุ่งขึ้นไปถึงเกือบร้อยละ 60 จากผลสำรวจดังกล่าว และประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล
อ้างอิง The Guardian / Business Insider / abc News