นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.แถลงมติ กกต. สั่งให้ผู้สมัครพรรคประชาชาติ 6 รายไม่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขต และ ไม่ให้นำคะแนนที่ได้รับไปใช้ในการคำนวณตามมาตรา 128 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. โดยระบุถึง หนังสือที่ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ส่งมาให้ กกต. พิจารณาวินิจฉัย เนื่องจากทั้ง 6 คนขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามใช้สิทธิลงสมัคร เพราะเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองในขณะเดียวกันเกินกว่า 1 พรรค, เข้าข่ายต้องห้ามตามมาตรา 24 ประกอบมาตรา 29 (5) สิ้นสุดสมาชิกภาพทุกพรรคการเมืองที่ซ้ำซ้อนตามมาตรา 27 (2) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ทำให้ขาดคุณสมบัติลงสมัครรับเลือกตั้ง กกต.จึงมีมติดังกล่าวออกมา
โดยทั้ง 6 คนประกอบด้วย 1. นางทัศนีย์ ชลายนเดชะ เขตเลือกตั้งที่ 15 กรุงเทพฯ 2. นายวิโรจน์ วัฒนากลาง เขตเลือกตั้งที่ 6 จังหวัดนครราชสีมา 3. นายอิทธิศักดิ์ ปาทาน เขตเลือกตั้งที่ 5 จังหวัดบุรีรัมย์ 4. นายเกริกชัย พลชา เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดบึงกาฬ 5.นายประหยัด พิมพา เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดอุดรธานีและ 6.นายอภิเดช เพลงธรรมะ เขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดอุดรธานีเช่นกัน
นายแสวง ระบุด้วยว่า ที่พึ่งลงมติกรณีผู้สมัคร ส.ส.ขาดคุณสมบัติ เพราะช่วงที่สมัครผู้อำนวยการเขตอาจตรวจไม่พบ แต่มาตรวจพบในภายหลัง จึงแจ้งต่อ กกต.ให้มีมติออกมาก่อนการประกาศรับรองผลอย่างเป็นทางการ แต่กรณีนี้ยังไม่ได้พิจารณาเรื่องใบส้ม เนื่องจาก ทั้ง 6 คนไม่ใช่ผู้ได้คะแนนอันดับหนึ่งภายในเขตเลือกตั้งและยังไม่เข้าข่ายตามกฎหมาย แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่าผู้สมัครหรือพรรคที่สังกัดมีส่วนเกี่ยวของในการกระทำผิดโดยจงใจกระทำผิดก็จะนำสู่การส่งเรื่องสู่ศาลฎีกาเพื่อพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป แต่ทั้งหมดต้องดูพยานหลักฐานตามข้อเท็จจริง
ส่วนการที่พรรคอนาคตใหม่จะเอาผิด กกต.นั้น นายแสวง ระบุว่า เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ พร้อมยืนยันว่า กกต. ดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับการตั้งแง่หรือกล่าวหาว่า กกต.อาจถูกแทรกแซงทางการเมือง กรณีแจ้งข้อกล่าวหา หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เรื่องถือหุ้นสื่อฯนั้น ต้องดูว่ามีพยานหลักฐานพิสูจน์สิ่งที่กล่าวหาหรือไม่ด้วย