วันที่ 26 ก.ย. 2565 ที่โรงแรมแคนทารี่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนาจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 โดยที่ประชุมมีมติ 259 คะแนน เห็นชอบให้รีแบรนด์เปลี่ยนชื่อพรรคใหม่เป็นพรรคชาติพัฒนากล้า
โดย สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เผยว่า เทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคว่า ถึงเวลาต้องมีการรีแบรนด์ ประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงประชาชน ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ยังชอบคำว่าชาติพัฒนา แต่ชื่อพรรคเดิมมักจะใกล้เคียงซ้ำซ้อนอีกหลายๆ พรรค จึงต้องการสร้างความชัดเจน โดยที่ประชุมมีการเสนอชื่อหลายชื่อ ซึ่งรายชื่อที่ได้คะแนนสูงสุดคือชาติพัฒนากล้า 259 คะแนน คือกล้าด้วยประสบการณ์ แก้ปัญหาวิกฤตต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วง
สุวัจน์ ยังกล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่างเพิ่ม 4 ตำแหน่ง โดยมี กรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคที่ตั้งเพิ่มขึ้นด้วย พร้อมแต่งตั้งนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เป็นประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ พรรคชาติพัฒนากล้า โดยทั้ง 2 ท่าน รวมถึง อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี นักการเมืองเลือดใหม่ วรวุฒิ อุ่นใจ ผู้มีประสบการณ์ด้านธุรกิจ พร้อมทีมงานอดีตผู้สมัคร ส.ส. และผู้บริหาร อีก 80 กว่าคน จะมาช่วยรับผิดชอบ เสริมความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจ
"เป็นการรวมตัวกันระหว่างประสบการณ์ทางการเมืองในพื้นที่ บวกกับประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจ จะเป็นพลังที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นกับพรรคชาติพัฒนากล้า และยินดีเปิดรับ หากมีผู้สนใจให้เข้าร่วมงานกับพรรค ย้ำว่าไม่ได้เป็นการรวมพรรค แต่เป็นการมาร่วมงานแล้วรีแบรนด์ใหม่" สุวัจน์ กล่าว
ส่วนการวางเป้าหมายทางการเมือง สุวัจน์ กล่าวว่า ต้องเดินหน้าสู่การมี ส.ส.ให้ได้มากที่สุด และอีกไม่กี่วันก็จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อเริ่มทำงาน ส่วนคาดหวังว่าจะได้กี่เสียง วันนี้อาจประเมินยาก แต่จะทำให้ดีที่สุด เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีจากพี่น้องประชาชน
สุวัจน์ ยังกล่าวถึงสัญญาณยุบสภาว่า ไม่ได้กังวล เพราะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว อะไรที่มันชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง จะเป็นทางออกที่ดีให้กับประเทศ จะมีอุบัติเหตุอะไรทางการเมือง ขอให้อยู่ในกรอบประชาธิปไตย อยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญ
ส่วนกระแสข่าวการเปลี่ยนหัวตัวหัวหน้าพรรคเป็น กรณ์ นั้น สุวัจน์ กล่าวว่า โครงสร้างเป็นไปตามที่แถลง คือ เทวัญ เป็นหัวหน้าพรรค ส่วนในอนาคตเป็นอีกเรื่องหนึ่ง รวมถึงยังไม่มีการคุยกันเรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ย้ำว่าการตัดสินใจทางการเมืองที่สำคัญค่อยว่ากันหลังจากยุบสภา
กรณ์ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นโอกาสที่เราจะรวมพลังกันมากขึ้น ให้ประชาชนมีโอกาส ได้ประโยชน์จากแนวคิดและนโยบายของพรรคเรา โดยอดีตผู้สมัครและอดีตผู้บริหารพรรคกล้าทุกคน ออกมารวมพลังกันอยู่ที่นี่ ซึ่งประชาชนต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง จึงเป็นภาระหน้าที่ของเรา มาสร้างสรรค์การเมือง แก้ปัญหาปากท้อง แก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ขณะที่ เทวัญ กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อเตรียมการทุกอย่าง เตรียมการสำหรับการเลือกตั้งที่อาจจะมาถึงเร็วๆ นี้ ซึ่งไม่เกินต้นปีหน้า โดยจะดูเรื่องนโยบายและผู้สมัครต่างๆ ก็จะรีบดำเนินการ อีกไม่เกิน 3-4 วัน ก็น่าจะเรียกประชุมได้