โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุในการแถลงยืนยันว่า กองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ ได้บุกโจมตีบ้านหลังหนึ่งในบริเวณพื้นที่เมืองอัตมา ซึ่งตั้งอยู่แถบตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ติดกันกับพรมแดนทางตอนใต้ของตุรกี โดยนอกจากกุเรชี ผู้นำกลุ่มรัฐอิสลามที่ถูกสหรัฐฯ สังหารแล้ว ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตอีก 13 ราย ซึ่งมีทั้งเด็กและผู้หญิง
ทั้งนี้ ในการปฏิการของสหรัฐฯ ส่งผลให้เฮลิคอปเตอร์ของตนซึ่งเป็นยานพาหนะในการขนส่งกองกำลังพิเศษจากเมืองเออร์บิลในอิรักเข้ามายังซีเรียถูกทำลาย อย่างไรก็ดี กุเรชีซึ่งถูกสังหารลงในครั้งนี้ เป็นผู้นำกลุ่มรัฐอิสลามที่ขึ้นครองอำนาจต่อจาก อาบู บักร์ อัลบัคดาดี อดีตผู้นำที่ถูกสหรัฐฯ สังหารไปเมื่อปี 2562 ในช่วงยุคสมัยของ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนก่อน
“ขอบคุณความกล้าหาญจากกองกำลังของเรา ไม่มีผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอันน่ากลัวอีกแล้ว” ไบเดนระบุในการแถลงจากทำเนียบขาว “กองกำลังของเราลงมือเข้าปฏิบัติการด้วยความพร้อมเพียงและแม่นยำอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา” ทั้งนี้ ไบเดนยืนยันว่ามีประชาชนจำนวนหนึ่งเสียชีวิตจากการโจมตีในครั้งนี้ แต่การตายทั้งหมดเกิดขึ้นจากการที่กุเรชีกดระเบิดฆ่าตัวตายในอาคารชั้นที่สาม ทำให้ผลกระทบของระเบิดคร่าชีวิตคนอื่นๆ นอกจากตนเองไปด้วย
“ชุดปฏิบัติการของเรากำลังรวบรวมรายงาน แต่เราทราบว่ากองกำลังของเราได้เข้าทำการจับกุมผู้ก่อการร้าย และสิ่งที่เขากระทำเป็นอย่างสุดท้ายด้วยความขี้ขลาดที่สิ้นหวัง โดยไม่ได้คำนึงถึงชีวิตของครอบครัวตัวเอง หรือคนอื่นๆ ในอาคาร เขาตัดสินใจที่จะระเบิดตัวเอง ไม่ใช่แค่ตัวของเขา แต่มันได้ระเบิดอาคารชั้นสาม แทนที่เขาจะเผชิญหน้ากับความยุติธรรมจากอาชญากรรมที่เขาก่อ ซึ่งมันได้พรากชีวิตสมาชิกในครอบครัวไปพร้อมกับเขาด้วย” ไบเดนกล่าว
ทางการสหรัฐฯ ย้ำว่า แผนการบุกเข้าจับกุมกุเรชีในครั้งนี้ ได้รับการวางแผนมาอย่างยาวนานและรัดกุม โดยทุกผลลัพธ์ของการบุกจู่โจมในครั้งนี้ออกมาตรงตามคาดของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี รายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่าเจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือเด็กจำนวน 8 คนออกมาจากพื้นที่ ในขณะที่มีเด็กสองคนเสียชีวิตจากระเบิดฆ่าตัวตายของกุเรชี ซึ่งคลาดเคลื่อนไปจากรายงานแรกที่ระบุว่ามีเด็ก 6 ราย และผู้หญิงอีก 4 รายเสียชีวิต
ทั้งนี้ ชาร์ลส์ ลิสเตอร์ ผู้อำนวยการโครงการซีเรีย จากสถาบันตะวันออกกลางในวอชิงตันระบุว่า “บางศพในพื้นที่ดังกล่าวดูไม่เหมือนกับว่าพวกเขาตายจากระเบิด พวกเขาดูเหมือนจะเสียชีวิตจากการถูกยิงโดยปืนลำกล้องหนัก” ลิสเตอร์ระบุเสริมว่า ตนเห็นวิดีโอปฏิการเข้าโจมตีดังกล่าว ซึ่งมีภาพเฮลิคอปเตอร์ของสหรัฐฯ ทำการยิงลงมาในบริเวณอาคารดังกล่าว ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่า ภรรยาและลูกของกุเรชีเสียชีวิตจากระเบิดของกุเรชีเอง อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมระบุว่าตนพร้อมเปิดเผยข้อมูลหากปฏิบัติการใดๆ ของทางการที่ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแน่นอน
จากรายงานระบุว่า ทางการสหรัฐฯ ได้วางแผนการโจมตีกุเรชีมานานนับเดือนแล้ว โดยไบเดนเองเพิ่งอนุมัติการบุกโจมตีเมื่อช่วงวันอังคาร (1 ก.พ.) ที่ผ่านมานี้ เพื่อการจับเป็นหรือจับตายต่อเป้าหมายอย่างกุเรชี “เรารู้ว่าผู้ก่อการร้ายรายนี้เลือกที่จะล้อมตัวเองด้วยสมาชิกในครอบครัวรวมถึงเด็ก เราจึงอาศัยปฏิบัติการจากกองกำลังพิเศษ ที่คำนึงถึงความปลอดภัยของพวกเรา มากกว่าการล็อกเป้าโจมตีเขาทางอากาศ” ไบเดนระบุ “เราได้เลือกปฏิการที่ทำให้ความสูญเสียของพลเรือนเกิดได้น้อยมากที่สุด”
กุเรชีเป็นผู้นำอาวุโสอันดับที่สี่ของกลุ่มรัฐอิสลามที่ถูกตามล่าและสังหารลงได้ และกุเรชีเองมีค่าหัวประกาศจับจากทางการสหรัฐฯ กว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 330 ล้านบาท) ทั้งนี้ ชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงกับอาคารที่กุเรชีอาศัยอยู่ระบุว่า พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่ากุเรชีคือหนึ่งในผู้นำรัฐอิสลามที่ทางการต้องการตัวมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และพวกเขาเห็นแค่เพียงภรรยาของกุเรชีที่ออกจากบ้านมาซื้อผัก และโดยปกติแล้วนั้นท่าทางของกุเรชีดูเป็นคนเงียบๆ และถ่อมตัว
ก่อนหน้านี้ กลุ่มรัฐอิสลามได้แตกพ่ายจากฐานที่มั่นของพวกตนในบริเวณประเทศอิรักเดิม ก่อนที่จะหดตัวลงมาอยู่ในบริเวณจังหวัดอิดลิบ ประเทศซีเรีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองอัตมา ที่ที่กุเรชีเพิ่งถูกสังหารลง อย่างไรก็ดี ทางการสหรัฐฯ คาดว่าเมืองอัตมาน่าจะเป็นแหล่งกบดาลไม่กี่ที่ที่กลุ่มรัฐอิสลามยังคงปักหลักอยู่ หลังจากกลุ่มก่อร้ายดังกล่าวถูกสหรัฐฯ รัสเซีย และรัฐบาลซีเรียเข้าปฏิบัติการถล่มด้วยระเบิดอย่างหนักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ที่มา: