วันที่ 9 ก.ค. 2566 ที่หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้า​พรรคก้าวไกล ​ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะส่งพยาน และหลักฐานให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. ให้ศาลรัฐธรรมนูญในวันพรุ่งนี้ (10 ก.ค.) ว่า เป็นเรื่องที่รู้มาก่อนหน้านี้ว่า จะมีการยื่นตรวจสอบ ตาม มาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งตอนแรกคาดว่าจะเป็นวันที่ 12 ก.ค. แต่การที่จะยื่นพรุ่งนี้ (10 ก.ค.) ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่คาดการณ์ไว้แล้ว จึงไม่มีอะไรที่น่ากังวลใจ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตาม กระบวนการ และตนก็พร้อมที่จะชี้แจงทุกประเด็น

เมื่อถามว่า การที่ถูกยื่นร้องเรื่องคุณสมบัติ จะมีผลต่อการตัดสินใจของวุฒิสภา (ส.ว.) ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พิธา กล่าวว่า เท่าที่ฟังความคิดเห็นจาก ส.ว. หลายท่านที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นนโยบายอะไร หรือมีเรื่องของการถือหุ้นไอทีวี หลายคนเห็นตรงกันว่า ไม่ใช่หน้าที่ของ ส.ว. ที่จะพิจารณาเรื่องนี้ เป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่มาจากประชาชน และเป็นตัวแทนของประชาชนที่จะตัดสินใจ เมื่อประชาชนตัดสินใจแบบนี้ก็เชื่อว่า ส.ว. ก็จะยึดหลักการนี้

เมื่อถามว่า มีมวลชนมาให้กำลังใจ ในวันที่ 13 ก.ค. นี้จะมีผลต่อการลงมติหรือไม่ พิธา กล่าวว่า คงไม่เรียกว่ามวลชน แต่เป็นประชาชน ที่เขาใช้สิทธิใช้เสียงเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่เขาอยากจะเห็นการตัดสินใจของเขา เป็นในภาพนั้นๆ และเชื่อว่า การมาของประชาชนไม่ได้มากดดันอะไร 

พิธา ยังให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติเพิ่มเติมสั้นๆ ภายหลังการปราศรัยด้วยว่า เราคิดถึงหลักการตามหลักการเมืองไทย เราไม่ได้ขออะไรมาก เราไม่ได้ขอให้โหวตให้เรา แต่เราขอให้โหวตให้พรรค โหวตให้ประชาธิปไตย โหวตให้เสียงข้างมาก และท้ายที่สุดพวกเราจะก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ส่วนแผนล่วงหน้าหากวันที่ 13 ก.ค.ไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง พิธา กล่างเพียงสั้นๆ ว่า ขอให้อยู่กับปัจจุบัน 

พิธา ย้ำว่า การพูดคุยกับ ส.ว. มีทิศทางไปในทางที่ดี และสถานการณ์ในปัจจุบัน มีความแตกต่าง จึงฝากถึงนักการเมืองว่า พวกคุณทุกคนผ่านช่วงเวลา ต้องรื้อฟื้นเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หากพวกคุณมีประสบการณ์ คนรุ่นใหม่ก็มีความคิดสร้างสรรค์