ไม่พบผลการค้นหา
ญี่ปุ่นยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ แต่ยังห้ามผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงโควิด-19 ทั่วโลกเข้าประเทศ โดยเตรียมแบนเพิ่ม 11 ประเทศในวันที่ 27 พ.ค. ส่วน 'ไทย' อยู่ในลิสต์ห้ามเข้าตั้งแต่เดือน เม.ย.-สถานทูตไทยในญี่ปุ่นยังทยอยช่วยคนไทยตกค้างกลับประเทศ

สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์เมื่อ 26 พ.ค. โดยระบุว่า นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศแล้ว เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นว่าสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้แล้ว

เนื้อหาในแถลงการณ์ระบุด้วยว่า "หลังจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจะค่อย ๆ ขยับระดับการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมเป็นระยะ โดยขอให้ประชาชนพยายามดำเนินชีวิตแบบใหม่ อาทิ teleworking ล้างมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงสถานที่ 3Cs คือ Closed spaces (พื้นที่ปิด) Crowded places (พื้นที่แออัด) และ Close-contact (มีการสัมผัสใกล้ชิด) ลดการพบปะผู้คนและหลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามจังหวัด"

ส่วนกรุงโตเกียวเริ่มมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค. โดยอนุญาตให้ 'เปิดโรงเรียน' โดยลดเวลาเรียนในโรงเรียน เรียนออนไลน์ควบคู่ หรือ สลับกันเข้าเรียน รวมถึง 'เปิดพิพิธภัณฑ์และห้องสมุด' โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าชม 'เปิดโรงยิม' เช่น สถานที่เล่นกีฬาในร่มหรือสระว่ายน้ำในร่มที่ไม่มีผู้เข้าชม 'เปิดร้านอาหาร' โดยให้ลูกค้าสามารถรับประทานภายในร้านและขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึงเวลา 22.00 น. และสามารถ 'จัดกิจกรรม' ที่มีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 50 คนได้

ขณะที่คนไทยซึ่งตกค้างในญี่ปุ่น ได้รับความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว อำนวยความสะดวกและส่งคนไทยที่ตกค้างในญี่ปุ่นกลับไทย โดยเที่ยวบินพิเศษ 3 เที่ยวบิน ได้แก่ สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG643 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนาริตะ ถึงประเทศไทยเวลา 15.30 น. สายการบิน All Nippon Airways (ANA) เที่ยวบินที่ NH847 และสายการบิน Japan Airlines (JAL) เที่ยวบินที่ JL031 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานฮาเนดะ ถึงประเทศไทยเวลา 15.30 น. และ 15.40 น. ตามลำดับ

"ผู้โดยสารคนไทยในเที่ยวบินข้างต้นเป็นผู้ที่ลงทะเบียนในแบบฟอร์มแจ้งความประสงค์ขอเดินทางกลับไทยจากประเทศญี่ปุ่นโดยเร่งด่วนกับสถานเอกอัครราชทูตฯ และรับทราบเกี่ยวกับมาตรการกักตัว 14 วัน หลังจากที่เดินทางถึงไทย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยในการจัดเตรียมสถานที่ในการกักตัวด้วยแล้ว" ข้อมูลจากเพจสถานทูตไทยในกรุงโตเกียวระบุ


ไทยยังติดโผกลุ่มประเทศห้ามเข้าญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว Japan Times รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่ปลดล็อกมาตรการห้ามชาวต่างชาติ หรือผู้ที่เดินทางจากกลุ่มประเทศเสี่ยงโควิด-19 เข้าญี่ปุ่น โดยที่ผ่านมามีประเทศที่ติดกลุ่มเสี่ยงอยู่แล้วกว่า 100 ประเทศทั่วโลก รวมถึงผู้เดินทางจาก 'ไทย' ซึ่งถูกห้ามเข้าญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.เป็นต้นมา 

ส่วนประเทศอื่นๆ ที่ติดกลุ่มห้ามเข้าญี่ปุ่นพร้อมไทย ได้แก่ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ จีน ฟิลิปปินส์ บรูไน เวียดนาม มาเลเซีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน เอกวาดอร์ ชิลี โดมินิกัน ปานามา บราซิล โบลิเวีย ประเทศสหภาพยุโรปและสแกนดิเนเวีย อิสราเอล อิหร่าน ตุรกี บาห์เรน อียิปต์ โกตดิวัวร์ ดีอาร์คองโก มอริเชียส และโมร็อกโก

ในวันที่ 23 เม.ย. และ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้เพิ่มรายชื่อประเทศเข้าไปในกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 รวมเป็นกว่า 100 ประเทศ โดยระบุว่า ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือผู้ที่เดินทางไปจากกลุ่มประเทศเสี่ยงโควิด-19 ทั้งหมด 'ห้ามเข้าญี่ปุ่น' ไม่ว่าจะเป็นคู่สมรสหรือทายาทของพลเมืองญี่ปุ่น นักเรียนนักศึกษาต่างชาติที่มีวีซ่าอย่างถูกต้อง หรือแม้แต่ผู้อยู่อาศัยถาวรที่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย จะไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าประเทศญี่ปุ่นไปจนกว่าจะมีคำสั่งยกเลิก

นอกจากนี้ ในวันที่ 27 พ.ค. ผู้เดินทางจาก 11 ประเทศจะถูกห้ามเข้าญี่ปุ่นเพิ่มเติม ได้แก่ อินเดีย บังกลาเทศ ปากีสถาน อัฟกานิสถาน ทาจิกิสถาน คีร์กิสถาน เอลซัลวาดอร์ กินี กานา อาร์เจนตินา เซาท์แอฟริกา

เจแปนไทม์สรายงานก่อนหน้านี้ว่า คำสั่งห้ามผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้าญี่ปุ่น ส่งผลกระทบต่อชาวต่างชาติจำนวนมากซึ่งมีกิจการหรือครอบครัวอยู่ในญี่ปุ่น เพราะพวกเขาเหล่านี้ไม่สามารถเดินทางกลับเข้าญี่ปุ่นได้ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: