ไม่พบผลการค้นหา
ครูรัก - ศรัทธา ศรัทธาทิพย์ ผู้กำกับอารมณ์ดี เผยเด็กด้อยโอกาส มูลนิธิบ้านพระพร - คริสเตียน เรือนจำพันธกิจ ช่วยให้ชีวิตกลับคืนสู่ปกติ หลังจมทุกข์กับอาการป่วยโรคซึมเศร้า โดยการตั้งคณะละครจิตอาสาในชื่อ “นกกระจิบของพ่อ” สร้างความสุขให้เด็กๆ และทำให้มองเห็นคุณค่าในตนเองอีกครั้ง

หากยังจำกันได้ เมื่อประมาณปลายปี 2561 ครูรัก - ศรัทธา ศรัทธาทิพย์ ผู้กำกับอารมณ์ดีแห่งวงการบันเทิง เคยมีข่าวว่าป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เนื่องจากพบกับปัญหาหลายสิ่งเข้ามาในชีวิตพร้อม ๆ กัน ซึ่งครั้งนั้น ทำให้ ครูรัก ของเราจากคนที่เคยสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนรอบข้าง กลับกลายเป็นคนที่ไม่มีรอยยิ้มและมองตัวเองไม่มีค่า จนถึงขนาดเคยคิดฆ่าตัวตาย แต่แน่นอนด้วยจิตใจที่ยังเข้มแข็ง บวกกับคนที่มองโลกว้าง และรู้จักคำว่าให้มาตลอด ทำให้ครูรัก รู้จักกับเด็กด้อยโอกาส มูลนิธิบ้านพระพร - คริสเตียน เรือนจำพันธกิจ และเด็กด้อยโอกาสกลุ่มนี้ คือ คนที่คืนชีวิตปกติให้ครูรักกลับมาสร้างความสุขและเห็นคุณค่าในตนเองอีกครั้ง จนเกิดคณะละครจิตอาสาในชื่อ “คณะละคร นกกระจิบของพ่อ”

จุดเริ่มต้นของการทำคณะละครจิตอาสา เกิดจากครูรักได้นำเงินไปบริจาคที่มูลนิธิบ้านพระพร ซึ่งเป็นมูลนิธิเลี้ยงดูเด็กที่เกิดจากแม่ซึ่งถูกจำขังในเรือนจำ โดยมูลนิธิแห่งนี้ได้ดูแลเด็กกลุ่มนี้เป็นอย่างดี ทั้งการศึกษา ความเป็นอยู่ และจากที่ครูรักไปสัมผัส พบว่า เด็กกลุ่มนี้ยังขาดความรัก ความผูกพัน และพวกเขายังรอคอยให้ทุกคนกลับมาหา

“เด็กบ้านพระพร แม้จะได้รับการดูแลอย่างดี แต่ลึก ๆ เราสัมผัสได้ว่าพวกเขารู้สึกว่าตนเองไม่เคยได้รับความรักเต็มที่ เพราะเวลาเราไปหาเด็กเหล่านี้มักจะถามว่า เมื่อไรจะมาอีก และคำว่า เมื่อไรจะมาอีก จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เราคิดว่า ถ้ามาที่นี่ จะมาทำอะไรทุกอาทิตย์ เพราะถ้าให้นำเงินหรือซื้อขนม ซื้อของมาแจก เราก็คงไม่มีกำลังทรัพย์พอขนาดนั้น จึงเกิดไอเดียในการนำความสามารถและสิ่งที่เรามีอยู่ในตัวเอง คือ การแสดง มาตั้งคณะละครจิตอาสา โดยประกาศหาคนร่วมคณะละครผ่านทางโซเชียลมีเดีย”

หลังจากประกาศหาทีมทำคณะละครอาสา ก็มีคนสมัครเข้ามาจำนวนมากทั้งคนในวงการบันเทิง, ลูกศิษย์บ้าน AF, ผู้ปกครอง และเพื่อนๆ ในโซเชียล ครูรักเอง บอกว่า เมื่อทุกคนเห็นคุณค่าในสิ่งที่ตนเองทำ มันทำให้เรามีกำลังใจดี โดยละครเรื่องแรกที่เราไปแสดงให้เด็กในบ้านพระพรรับชม คือเรื่องเด็กเลี้ยงแกะ โดยทุกคนในคณะละครตั้งใจซ้อมกันมาก ส่วนตนเอง เขียนบท แต่งเพลง เพื่อให้เด็กๆ บ้านพระพรฯ เขามีความสุข และได้ข้อคิดดีๆ แฝงไปด้วยเมื่อชมละครเวทีจบ

ศรัทธา ศรัทธาทิพย์

ทำไมต้องชื่อว่า "คณะละครนกกระจิบของพ่อ”

คำว่า “นกกระจิบ” คือ นกตัวเล็กๆ ที่สร้างรังแต่พอตัว แต่ถ้านกมันมาอยู่รวมกันหลายตัวก็กลายเป็นรังที่ใหญ่ขึ้นมาได้ ซึ่งก็เหมือนกับ คณะละครตนเอง ที่ตนเองและทุกคน เป็นกลุ่มเล็กๆ ในสังคม ที่เมื่อมารวมตัวกันเพื่อสร้างสิ่งดีๆ ที่เชื่อว่าจะต่อยอดให้เกิดประโยชน์อันยิ่งใหญ่ได้ ส่วนคำว่า “ของพ่อ” มาจากที่ตนเองต้องการระลึกถึงในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่เคยให้แนวทางของการทำความดี จิตอาสา และความพอเพียง ดังนั้นคำว่านกกระจิบของพ่อ คือ การรวมตัวพลังเล็กๆ เพื่อสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมตามความถนัดของตนเองโดยไม่ต้องสิ้นเปลืองนั่นเอง

คิดว่าคณะละครนกกระจิบของพ่อให้อะไรกับ ผู้ให้ และ ผู้รับ บ้าง ?

ผู้ให้ จะได้รับความสุขของการเป็นผู้ให้ โดยเฉพาะเด็กๆ ที่มาร่วมแสดงละคร พวกเขาจะรู้จักการมีน้ำใจ ที่สำคัญมองเห็นค่าของคนที่ขาดโอกาสกว่าตนเอง และยังได้พัฒนาศักยภาพความสามารถด้านการแสดงควบคู่ไปด้วย ในขณะเดียวกันด้านเด็กในบ้านพระพร หรือเด็กในมูลนิธิที่ตนเองไปแสดง ในฐานะผู้รับ พวกเขาได้รับความสุข ความรัก และทำให้เกิดรอยยิ้ม ที่สำคัญพวกเขามีความหวังในการเริ่มต้นสิ่งดีๆ ในสังคม”

ศรัทธา ศรัทธาทิพย์

หากพูดว่าเด็กไร้โอกาส เป็นวัคซีนให้ครูรักหายจากโรคซึมเศร้าได้หรือไม่ ?

หากจะพูดแบบนั้นก็ได้ เพราะเมื่อได้มาทำคณะละครนกกระจิบของพ่อ ที่แม้ใน 1 เดือน จะแสดงเพียงแค่ 2 ครั้ง คือ ที่บ้านพระพร และบ้านทานตะวัน ทำให้ตนเองได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะการเห็นรอยยิ้ม และ ความหวังของเด็ก ที่รอคอยตนเองและกลุ่มคณะละคร ที่สำคัญ ตนเองเชื่อว่า เด็กในมูลนิธิ มองว่า พวกเราคือ เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นไอดอลและแรงบันดาลใจให้พวกเขา ดังนั้นการใช้ศิลปะจึงถือเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการกล่อมเกลาจิตใจเด็กไร้โอกาส ที่จะเติบโตไปสู่สังคมข้างหน้า

ศรัทธา ศรัทธาทิพย์

ทั้งนี้ ครูรัก ได้บอกทิ้งท้ายว่า ตอนนี้แม้ตนเองจะหายหน้าหายตาไปจากหน้าจอบ้าง แต่ยังมีผลงานกำกับการแสดงละครเวที “สูตรเสน่หา เดอะมิวสิคัล” นำแสดงโดย เชียร์ - ฑิฆัมพร และ เก้ง - เขมวัฒน์ พร้อมเปิดม่านการแสดงในวันที่ 27 กันยายนนี้ และเร็วๆ นี้จะมีผลงานละครมาให้แฟนๆ ได้ชม แต่สุดท้ายสำหรับคณะละครนกกระจิบของพ่อ คุณรักได้บอกว่า “ต่อให้ผมตายไป แต่อย่าให้คณะละครนี้ตายไปนะ”