บริษัทคิริน (Kirin) ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สัญชาติญี่ปุ่น ประกาศยุติแผนการร่วมลงทุนกับกลุ่มบริษัท Myanmar Economic Holdings Public Company Limited หรือ MEHL ซึ่งเป็นโฮลดิ้งภายใต้กองทัพเมียนมา หลังเหตุรัฐประหารยึดอำนาจพรรคเอ็นแอลดีของอองซาน ซูจี
คิรินระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัทมีความกังวลอย่างยิ่งต่อการกระทำล่าสุดของทหารในเมียนมา ทำให้บริษัทไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อยุติการเป็นหุ้นส่วนกับ MEHL ซึ่งเป็นกลุ่มทุนของกองทัพ
สำหรับคิรินมีสัดส่วนการลงทุนร่วมกับ MEHL ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท Myanmar Brewery Limited ผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ ด้วยการลงทุนกว่า 500 ล้านดอลลาร์ในปี 2558 โดยบริษัทมีแผนต่อยอดลงทุนเพิ่มในเมียนมา แต่ด้วยเหตุรัฐประหารจึงระงับแผนการณ์ดังกล่าว
ท่าทีดังกล่าวได้รับเสียงสนับสนุนจากองค์กรสิทธิมนุษชนในญี่ปุ่นที่บริษัทตัดสินใจดังกล่าว ทั้งยังหวังว่าบริษัทต่างชาติรายอื่นๆ ที่มีความสัมพันธ์ด้านการลงทุนกลับกลุ่มบริษัทที่มีกองทัพเมียนมาเป็นเจ้าของ จะตัดสินใจในลักษณะเดียวกัน
ขณะเดียวกัน หม่องหม่องลัตต์เลขานุการเอกประจำสถานเอกอัครทูตเมียนมาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประกาศจุดยืนขอลี้ภัยทางการเมืองในสหรัฐฯ เนื่องจากไม่ยอมรับอำนาจของคณะรัฐประหาร
"ผมตัดสินใจขอลี้ภัยในประเทศนี้ เพราะไม่ต้องการยอมรับการยึดอำนาจโดยมิชอบของทหาร" หม่องหม่องลัต เผยต่อสำนักข่าววีโอเอ
"มันเป็นความอยุติธรรมโดยสิ้นเชิงที่ผมทนไม่ได้ และผมกังวลอย่างมากโดยเฉพาะกับต่ออนาคตของคนรุ่นใหม่ในประเทศเรา" เลขาฯ ทูตเมียนมากล่าวเสริม
นักการทูตเมียนมายังแสดงความกังวลว่า ในอนาคตบรรดาเจ้าหน้าที่พลเรือนระดับสูงจะถูกแทนที่ด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ทั้งยังกล่าวถึงท่าทีของนักการทูตจากชาติเดียวกันทั่วโลกว่า ในบรรดาทูตเมียนมามีทั้งผู้ที่สนับสนุนการรัฐประหาร และผู้ที่เพิกเฉยต่อการยึดอำนาจครั้งนี้ โดยเขาเรียกร้องให้เพื่อนนักการทูตชาวเมียนมาร่วมแสดงพลังอารยะขัดขืนต่ออำนาจของกองทัพเฉกเช่นที่ชาวเมียนมาหลายส่วนของประเทศ เคลื่อนไหวแสดงพลัง
ก่อนหน้าที่ หม่องหม่องลัตต์ จะดำรงตำแหน่งด้านการทูตในกรุงวอชิงตันดี.ซี. เขาเคยประจำยังสถานทูตเมียนมาในประเทศมาเลเซีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ และไทย โดยเขามีกำหนดกลับไปยังเมียนมาในเดือนหน้าเพื่อเกษียณอายุราชการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :