วันที่ 22 มี.ค. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย วิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม.พรรคเพื่อไทย สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ผู้ซึ่งประสงค์รับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เขตลาดพร้าว-บึงกุ่ม แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการจัดงาน ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ’ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2566 นี้

วิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้พรรคเพื่อไทยได้ท้วงติงและไม่เห็นด้วยกับการแบ่งเขต กทม. ว่าอาจจะก่อให้เกิดปัญหาด้านข้อกฎหมาย และสร้างความสับสนให้กับพี่น้องประชาชน เป็นการแบ่งเขตที่พิลึกพิลั่น และมีตวามกังวลว่าอาจจะเกิดการล้มบัตรกาเบอร์ในวันเลือกตั้ง แต่เมื่อมีการประกาศแล้ว พรรคเพื่อไทยพร้อมรับทุกกติกา จึงมีการจัดสรรผู้สมัคร ส.ส.กทม.ใหม่ทั้ง 33 เขตให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ เพราะบางเขต บางแขวงมีการทับซ้อนกันบ้างในบางพื้นที่ จึงมีการเปลี่ยนป้ายหาเสียง และชี้แจงพี่น้องประชาชน 

ทั้งนี้พรรคเพื่อไทย กรุงเทพ มีความพร้อมแล้ว 100% และจะมีการเปิดตัวในเวทีปราศรัยใหญ่วันที่ 24 มีนาคม 2566 ภายใต้แคมเปญ ‘ คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพ’ โดยภายในงานจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ ใหม่ในอนาคต 4 ด้านเพื่อคนกรุงเทพฯ และประเทศไทย พร้อมเปิดตัวนโยบายใหม่ 10 ด้าน ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ มลพิษ การศึกษา สิ่งแวดล้อม การรักษาพยาบาล ฯลฯ ที่สเตเดียมวัน จุฬา ซอย 6 ตั้งแต่เวลา 17.30-19.30 น.

วิชาญ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยมีระบบในการจัดสรรผู้สมัคร แม้จะมีการสลับสับเปลี่ยนผู้สมัคร แต่พรรคเพื่อไทยมีฐานเดิม ซึ่งมีผู้สนับสนุนทุกเขต จากการที่เคยส่งผู้สมัคร สก.รวม 50 เขตในช่วงที่ผ่านมา และการที่พรรคเพื่อไทยมี สก. 20 เขต ที่ยังคงทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง จึงไม่เป็นห่วง มั่นใจว่าผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขตน่าจะทำงานได้ดีและประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินในการเลือกตั้ง

ด้านสกาวใจ พูนสวัสดิ์ ผู้ซึ่งประสงค์รับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การจัดงาน ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ’ เป็นการเปิดตัว ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต เป็นการแสดงความพร้อมของพรรคเพื่อไทยที่จะลงสู่สนามการเลือกตั้งครั้งนี้ และพร้อมกำชัยชนะทุกเขต การจัดงานครั้งนี้มีความยิ่งใหญ่และไม่เหมือนใคร มีเซอร์ไพรส์แน่นอน มีผู้ร่วมงานเป็นกลุ่ม LGBTQ สายมู ดารา ด้อมต่างๆ หลากหลายอาชีพ โดยจะมีการเปิดพื้นที่ให้พี่น้องประชาชนที่มาร่วมงานแสดงความคิดเห็นถึงปัญหาต่างๆ ใน กทม.ว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง เราจะนำปัญหาของพี่น้องประชาชนไปแก้ไขทันทีที่ได้เป็นรัฐบาล

สกาวใจ กล่าวอีกว่า แม้จะมีการแข่งเขตเลือกตั้งใหม่ แต่ตนยังมั่นใจ 100% มาเพื่อชนะแน่นอน แต่ยอมรับว่าต้องใช้เวลาในการอธิบายให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้ว่า เขตและแขวงที่ตนลงสมัครรับเลือกตั้งอยู่ตรงไหนบ้าง ขณะนี้ลงพื้นที่ทุกวัน พี่น้องประชาชนต่างสอบถามเข้ามาเป็นอย่างมาก เพราะพี่น้องประชาชนไม่ทราบ เพราะมีการแบ่งย่อยๆ แยกออกไปอีก ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนมีเวลาเท่ากันหมดหลังยุบสภา ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ ทุกคนสู้เต็มที่ ส่วนกระแสตอบรับหลังจากที่มีการเปลี่ยนเขต ประชาชนพบว่า กระแสตอบรับดี เนื่องจากนายพลภูมิ วิวัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม. เป็นที่รักของพี่น้องประชาชน เพราะลงพื้นที่ พร้อมปัญหาไขปัญหาทุกอย่างด้วยความรวดเร็วให้พี่น้องอย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าหนักแต่ไม่เหนื่อย เพราะการตัดสินใจเข้ามาทำงานการเมือง เพราะต้องการนำเสนอสิ่งที่ดีต่อพี่น้องประชาชน ประชาชนจะได้ไปเต็มๆ 

ส่วนเขตเดิมที่ตนเคยลง ได้ส่งไม้ต่อให้ อรรครัตน์ นิติพล อย่างไร สกาวใจ กล่าวว่า อรรครัตน์ เป็นคนในพื้นที่อยู่แล้ว จึงมีความคุ้นชินกับคนในพื้นที่เป็นอย่างดี ยืนยันว่าผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรคเพื่อไทยทุกคนลุยลงพื้นที่ตั้งแต่เช้าถึงดึก ไม่น่าเป็นห่วง

“ตั้งแต่เกิดมาไม่เห็นการเปิดตัวอะไรที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เป็นการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ที่ไม่เหมือนใครแน่นอน พวกเราทุกคนต้องการพาพี่น้องประชาชนก้าวไปข้างหน้า ศุกร์นี้อยากให้มากันเยอะๆ นะคะ” สกาวใจ กล่าว