ศาลรัฐธรรมนูญ ‘รับคำร้อง’ "สส.วิสุทธิ์-สว.เปรมศักดิ์" วินิจฉัย แก้รธน.ต้องประชามติกี่ครั้ง
ตามที่ประธานรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๐ วรรคหนึ่ง (๒) (เรื่องพิจารณาที่ ๙/๒๕๖๘) ในคราวประชุมรวมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๖ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันจันทร์ที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๘ พิจารณาญัตติด่วนกรณีที่นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สมาชิกสภาผูแทนราษฎร เป็นผู้เสนอให้รัฐสภาพิจารณามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๐ วรรคหนึ่ง (๒)
โดยผลการลงมติในญัตติดังกล่าวว่า
ที่ประชุมรัฐสภามีมติเห็นด้วยให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามญัตติ ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๘ ประธานรัฐสภา (ผู้ร้อง) ส่งเรื่องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๐ วรรคหนึ่ง (๒) และเมื่อวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๘ ศาลรัฐธรรมนูญให้ ผู้ร้องจัดส่งสำเนารายงานการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๖ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ ๒) เป็นพิเศษ ในวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๘ (ฉบับชวเลข) ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ และวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๘ ผู้ร้องจัดส่งสำเนารายงานการประชุมร่วมกันของรัฐสภาดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ผลการพิจารณา
เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๘ นายอุดม รัฐอมฤต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขอถอนตัวจากการพิจารณาคดีนี้ เนื่องจากเคยทำหน้าที่เป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญและเคยให้ถ้อยคำหรือให้ความเห็นในฐานะพยานผู้เชี่ยวชาญต่อศาลรัฐธรรมนูญในคำวินิจฉัยที่ ๔/๒๕๖๔ และที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอนุญาต ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำรอง เอกสารประกอบคำรอง และสำเนารายงานการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๖ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันจันทร์ที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๘ แล้ว เห็นว่า
เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๘ ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเห็นว่าเป็นปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาและมีมติโดยเสียงข้างมากให้ส่งปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาในการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของสมาชิกรัฐสภาต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๐ วรรคหนึ่ง (๒) กรณีจึงเป็นปัญหา
ซึ่งเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจที่เกิดขึ้นแล้วตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๐ วรรคหนึ่ง (๒) และพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๗ (๒) และมาตรา ๔๔ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเอกฉันทมีคำสั่งไม่รับคำร้องตามข้อ ๑ (ที่ผู้ร้องเสนอ) เนื่องจากไม่ปรากฏว่าเป็นญัตติที่มีการเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภา
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (๕ ต่อ ๓) มีคำสั่งรับคำร้องตามข้อ ๒ (ที่นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา เป็นผู้เสนอญัตติ) และข้อ ๓ (ที่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สมาชิกสภาผูแทนราษฎร เป็นผู้เสนอญัตติ) ไว้พิจารณาวินิจฉัย และเพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นและจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐานตามประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก จำนวน ๕ คน คือ นายนครินทร เมฆไตรรัตน นายวิรุฬห แสงเทียน นายจิรนิติ หะวานนท นายนภดล เทพพิทักษ และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างนอย จำนวน ๓ คน คือ นายปัญญา อุดชาชน นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม และนายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์