ไม่พบผลการค้นหา
วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เดินทางเยือนเมืองท่ามารีอูปอลของยูเครน โดยไม่เปิดเผยหมายกำหนดการล่วงหน้า เมื่อช่วงคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (18 มี.ค.) เพื่อแสดงการต่อต้าน หลังจากศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ออกหมายจับเขาในข้อหาอาชญากรสงคราม

Tass สื่อของรัฐบาลรัสเซียเผยแพร่ภาพ ที่แสดงให้เห็นประธานาธิบดีรัสเซียในการเดินทางครั้งแรกของเขา ไปยังดินแดนที่รัสเซียยึดครองในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน นับตั้งแต่ปูตินสั่งเริ่มการรุกรานอย่างเต็มรูปแบบเมื่อปีที่แล้ว โดยสำนักข่าว Tass รายงานว่า ปูตินบินด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังเมืองมารีอูปอลในวันเสาร์ และเยี่ยมชมเมือง พร้อมกันกับการขับรถด้วยตัวเองใบบางช่วง นอกจากนี้ ประธานาธิบดีรัสเซียยังเยี่ยมชมสถานที่หลายแห่ง พูดคุยกับผู้อยู่อาศัย และรับรายงานเกี่ยวกับงานบูรณะเมือง

มารีอูปอลของยูเครนถูกรัสเซียตีแตกในเดือน พ.ค.ปีที่แล้ว หลังจากเกิดการต่อสู้ที่นองเลือดที่สุดของสงคราม ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญครั้งแรกของรัสเซียในสงครามในยูเครน หลังจากที่ล้มเหลวในการยึดเมืองหลวงอย่างกรุงเคียฟ และมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายการรุกรานทางตะวันออกเฉียงใต้แทน 

เมืองท่าแห่งนี้ถูกยึดครองหลังจากการปิดล้อมที่ยาวนาน โดยกองกำลังรัสเซียได้ทำลายโรงงานเหล็กอซอฟสตอล ซึ่งเป็นที่มั่นสุดท้ายของกองกำลังยูเครนในเมืองมารีอูปอล ทั้งนี้ องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) กล่าวว่า รัสเซียทิ้งระเบิดโรงพยาบาลแม่เล็กเด็กประจำเมืองมารีอูปอล ก่อนระบุว่าการการกระทำดังกล่าวเป็นอาชญากรรมสงคราม

เมื่อวันเสาร์ ปูตินได้เดินทางไปยังไครเมีย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองมารีอูโปลทางตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 9 ปีที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียไปจากยูเครน โดยสถานีโทรทัศน์ของทางการรัสเซียแสดงภาพที่ประธานาธิบดีรัสเซียไปเยือนเซวาสโตปอล เมืองท่าริมทะเลดำ พร้อมด้วย มิคาอิล ราซโวซาเยฟ ผู้ว่าการท้องถิ่นที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลรัสเซีย

ปูตินยังได้เดินทางไปเยี่ยมโรงเรียนสอนศิลปะและศูนย์เด็กของเมือง สถานที่ซึ่งดูเหมือนจะถูกเลือก เพื่อใช้ในการตอบโต้กับหมายจับของ ICC ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากคณะผู้พิพากษาเห็นพ้องต้องกันว่ามี "เหตุอันสมควร" ที่จะเชื่อว่าปูตินและ มาเรีย อเล็กเซเยฟนา ลโววา-เบโลวา กรรมาธิการสิทธิเด็กของเขา มีส่วนต่อความรับผิดชอบใน "การเนรเทศออกนอกประเทศอย่างผิดกฎหมาย" ต่อเด็กชาวยูเครน

ทางการยูเครนกล่าวว่า มีเด็กยูเครนมากกว่า 16,000 คนถูกส่งตัวไปรัสเซีย ตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มขึ้นในเดือน ก.พ. 2565 โดยมีเด็กจำนวนมากถูกส่งไปอยู่ในสถานสงเคราะห์และบ้านอุปถัมภ์ ทั้งนี้ คาริม ข่าน อัยการ ICC กล่าวกับกับสำนักข่าว AFP ว่า ปูตินต้องถูกจับกุมตัว หากเขาก้าวเข้าสู่เขตอำนาจศาลของ ICC ใน 120 ประเทศสมาชิกของศาล 

ทั้งนี้ ปูตินไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะเกี่ยวกับหมายศาลดังกล่าว ซึ่งยิ่งทำให้ความโดดเดี่ยวระหว่างประเทศของรัสเซียรุนแรงยิ่งขึ้น แม้ว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีรัสเซียจะถูกจับกุมตัว และนำตัวมาพิจารณาคดีในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ ทางการรัสเซียระบุว่า หมายจับต่อประธานาธิบดีของพวกเขานั้นเป็น "โมฆะ" เนื่องจากรัสเซียไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลของ ICC

เมื่อรัสเซียเข้ายึดเมืองมารีอูปอลได้อย่างสมบูรณ์ ในเดือน พ.ค.ปีก่อน มีประชาชนประมาณ 100,000 คนยังคงอาศัยอยู่ในเมืองดังกล่าว จากจำนวนประชากรเดิมก่อนการเกิดสงครามที่ 450,000 คน ทั้งนี้ หลายคนติดอยู่ในเมืองโดยไม่มีอาหาร น้ำ ความร้อน หรือไฟฟ้า อีกทั้งการทิ้งระเบิดอย่างไม่หยุดยั้ง ส่งผลให้อาคารในเมืองพังทลายจนแทบไม่เหลือซาก

มีไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาของ โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่า การเยือนเมืองที่ถูกทำลายล้างครั้งนี้ของปูติน เท่ากับการที่ผู้กระทำความผิดกลับมายังสถานที่เกิดเหตุ “อาชญากรมักจะกลับมายังที่เกิดเหตุเสมอ” ก่อนระบุเสริมว่า “ในขณะที่โลกศิวิไลซ์ประกาศการจับกุม 'ผู้อำนวยการสงคราม' (ปูติน) ในกรณีข้ามพรมแดน ผู้สังหารครอบครัวชาวมารีอูปอลหลายพันคน ได้มาชื่นชมซากปรักหักพังของเมืองและหลุมฝังศพ นี่คือการกระทำอันถากถางดูถูกและขาดความสำนึกผิด”

สภาเมืองมารีอูปอล ซึ่งกำลังลี้ภัยออกนอกพื้นที่ ยังประณามการเยือนของปูตินว่า “ปูติน อาชญากรข้ามชาติไปเยือนมารีอูปอลที่ถูกยึดครอง เขาดู 'การสร้างเมืองใหม่'... ในตอนกลางคืน อาจเพื่อไม่ให้เห็นเมืองที่ถูกฆ่าโดย 'การปลดปล่อย' ของเขาในเวลากลางวัน”

ในขณะที่เซเลนสกีเดินทางไปยังสนามรบหลายครั้ง เพื่อเพิ่มขวัญและกำลังใจให้กับกองกำลังของยูเครน และวางกลยุทธ์ในการพูดคุย ในกรณีส่วนใหญ๋ ปูตินยังคงอยู่ในกรุงมอสโก ในขณะที่กองทัพรัสเซียได้ดำเนินการในสิ่งที่ปูตินเรียกว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร" ในยูเครน ทั้งนี้ หลังจากการเยือนมารีอูปอล ปูตินได้เดินทางไปต่อยังรอสตอฟ เมืองทางตอนใต้ของรัสเซีย ที่ซึ่งสื่อของรัฐบาลรัสเซียถ่ายทอดภาพปูติน เข้าพบกับหัวหน้าเจ้าหน้าที่ทั่วไป วาเลรี เกราซิมอฟ ผู้บัญชาการปฏิบัติการสงครามของรัสเซียในยูเครน

ในวันจันทร์นี้ (20 มี.ค.) สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จะเดินทางเยือนกรุงมอสโกอย่างเป็นทางการ เพื่อยืนยันความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของจีนกับรัสเซีย และเปิดโอกาสให้ปูตินได้ย้ำว่ารัสเซียไม่ได้ถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลก โดยเมื่อเดือนที่แล้ว จีนเสนอแผนสันติภาพ 12 ประการเพื่อรับมือกับสงคราม แม้ว่าจะไม่ได้ระบุรายละเอียดที่สำคัญ อาทิ กองทัพรัสเซียควรถอนกำลังออกจากยูเครนหรือไม่

การเยือนของสีจะถูกตีความอย่างกว้างขวางว่าเป็นการแสดงการสนับสนุนปูติน ซึ่งสีอธิบายว่าเป็น “เพื่อนที่ดีที่สุด” ของเขา แต่เขายังต้องการแสดงให้โลกเห็นว่า เขาสามารถเป็นพลังยับยั้งปูตินได้ เช่น การป้องกันไม่ให้ปูตินติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ในสนามรบยูเครน ทั้งนี้ ปูตินกล่าวก่อนการเดินทางเยือนรัสเซียของสีว่า ประธานาธิบดีจีนเป็น “มิตรรักอันเก่าแก่” ของรัสเซีย


ที่มา:

https://www.theguardian.com/world/2023/mar/19/vladimir-putin-makes-surprise-visit-to-occupied-mariupol-in-ukraine?CMP=Share_AndroidApp_Other&fbclid=IwAR3_ruiOchy4aOsBRKfcREnG2ShOXllv_D0E-z5Is2EArFzXJ_hn4wSUfV4