กฤษฎีกาฉบับดังกล่าวได้รับการลงนามโดย วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย โดยเนื้อความระบุว่า เงินชดเชยจะถูกจ่ายไปให้แก่ครอบครัวของผู้ที่ถูกสังหารจาก “ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร” ในพื้นที่ที่ถูกแยกออกมาของโดเนตสก์และลูฮานสก์จากยูเครน
ปูตินก่อตั้งกองกำลังรักษาดินแดนหรือ ‘รอสกวาร์เดีย’ ขึ้นในปี 2559 เพื่อควบคุมกิจการภายในประเทศและต่อต้านการก่อการร้าย ทั้งนี้ กองกำลังดังกล่าวจะปฏิบัติการผ่านการได้รับคำสั่งโดยตรงจากประธานาธิบดีรัสเซียเอง
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัสเซียปกปิดตัวเลขความสูญเสียกองกำลังของตน ที่เสียชีวิตจากการเข้าทำสงครามในยูเครนและซีเรียมาโดยตลอด โดยในช่วงก่อนการถอนทัพออกนอกรอบกรุงเคียฟ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียออกมายอมรับว่า รัสเซียประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่ไม่มีการยืนยันตัวเลขแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้ออกมาเปิดเผยว่า มีกองกำลังของตนที่ 1,351 นาย ถูกสังหารลงในยูเครน อย่างไรก็ดี ชาติตะวันตกคาดว่าตัวเลขความสูญเสียของกองกำลังรัสเซียในยูเครนอาจพุ่งสูงขึ้นกว่านั้นมาก โดยทางการยูเครนเคยออกมาอ้างว่า พวกตนสามารถสังหารทหารของรัสเซียได้นับหมื่นราย
การประกาศกฤษฎีกาในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่รัสเซียได้ส่งกองกำลังของตนเข้ารุกรานยูเครน ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการฆ่าสังหารพลเรือนชาวยูเครนจำนวนมาก และนำมาซึ่งวิกฤตผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดของยุโรป นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองจบลง เช่นเดียวกันกับในปี 2558 ที่ปูตินส่งกองกำลังของตนเข้าไปยังซีเรีย เพื่อช่วยรบและปกป้องรัฐบาลเผด็จการของ บาชาร์ อัล-อัสซาด
ที่มา: