ไม่พบผลการค้นหา
วันแรกโครงการ 'ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ' เจ้าหน้าที่ยึดแล้ว 202 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดีรวม 1,168 คน

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ในวันแรกของเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวอย่างหนาแน่น ส่งผลให้การจราจรในหลายพื้นที่ติดขัดเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะเส้นทางสายหลักที่มุ่งสู่ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ

โดยเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ตำรวจ ฝ่ายปกครองและจิตอาสา ได้ร่วมกันอำนวยความสะดวกประชาชน อำนวยการจราจรตามจุดบริการและจุดตรวจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่สถานีขนส่งหลัก ที่เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินรถ เช่น สถานีขนส่งประจำจังหวัด สถานีขนส่งหมอชิต สายใต้ใหม่ เอกมัย เจ้าหน้าที่ได้ออกตรวจและดูแลความเรียบร้อยในภาพรวม และป้องปรามอาชญากรรม เพื่อให้ผู้เดินทางได้รับความสะดวกเช่นกัน

“การคับคั่งของยานพาหนะที่มีเป็นช่วงๆในพื้นที่ผ่านชุมชนเมืองใหญ่ เจ้าหน้าที่ได้พยายามเร่งระบายรถที่ชะลอตัวหรือหยุดเป็นเวลานานอย่างเต็มที่ เพื่อให้การจราจรเลื่อนไหลไปได้อย่างเหมะสม อย่างไรก็ตามในห้วงนี้สภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัดอาจส่งผลต่อสภาพยานพาหนะและการขับขี่ การพิจารณาพักรถเป็นระยะๆระหว่างการเดินทาง อาจช่วยให้การเดินทางราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้น”รองโฆษก คสช. กล่าว

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาอันเกิดจากการขับขี่ยานพาหนะด้วยมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ที่ คสช.และรัฐบาลได้ใช้ในการดูแลประชาชนในช่วงเทศกาลมาตลอดนั้น

สถิติในวันแรก (11 เมษายน 2562) เจ้าหน้าที่ตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทประมาท 2,344 ครั้ง จำเป็นต้องเก็บรักษารถไว้ 202 คัน (จักรยานยนต์ 158 คัน และ รถยนต์ 44 คัน) ยึดใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 20 คน และยึดใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ รถยนต์ 121 คน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดีรวม 1,168 คน