โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นธนาคารหลักในการจัดการกองทุน 1MDB (วัน มาเลเซีย ดีเวลอปเมนท์ เบอร์ฮาด) หักค่าตอบแทนรายปีของ 'เดวิด โซโลมอน' ซีอีโอคนปัจจุบันของบริษัทด้วยมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นรายได้ราว 36% ของค่าตอบแทนทั้งหมดที่เดวิดควรได้ของทั้งปี 2563 เพื่อชดเชยค่าเสียหายที่ธนาคารต้องรับผิดชอบ
ช่วงเดือน ก.ค. 2563 รัฐบาลมาเลเซียและโกลด์แมน แซคส์ บรรลุข้อตกลงกับคดีฉ้อโกงกองทุนระดับชาติของมาเลเซีย ด้วยเม็ดเงินความเสียหายสูงถึง 3,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 123,000 ล้านบาท ที่มีการตกลงว่า ธนาคารจะจ่ายให้รัฐบาลในรูปเงินสดประมาณ 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (79,000 ล้านบาท) และชดเชยในรูปสินทรัพย์ที่มีมูลค่าอย่างต่ำ 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (44,200 ล้านบาท)
ตามข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (U.S. Securities and Exchange Commission) พบว่า รายได้ของโซโลมอนในปีที่ผ่านมาลดลงมาเหลือ 17.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 525 ล้านบาท จากที่เคยสูงถึง 27.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 825 ล้านบาท ในปี 2562
ก่อนหน้านี้ในเดือน ต.ค. 2563 โกลด์แมน แซคส์ ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะมีการปรับลดค่าตอบแทนของเหล่าผู้บริหารระดับสูง ไล่มาตั้งแต่ ซีอีโอ รวมไปถึงผู้บริหารสูงสุดทางด้านการเงินของบริษัท (ซีเอฟโอ) อย่างสตีเฟน เชอร์ รวมไปถึงประธานฝ่ายปฎิบัติการ (ซีโอโอ) อย่าง จอห์น วอลดรอน
รายงานฉบับดังกล่าวที่บริษัทยื่นให้กับคณะกรรมการดูแลตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ยังพบว่า รายได้ของสตีเฟน ลดลงมาอยู่ที่ 15.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 465 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา จากเม็ดเงินราว 22.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 675 ล้านบาทที่เคยได้ในปี 2562
ขณะที่รายได้ของวอลดรอนลดลงจาก 24.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 735 ล้านบาท ลงมาอยู่ที่ 18.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 555 ล้านบาท ในห้วงเวลาเดียวกัน
เมื่อรวมการหักเงินรายได้จากผู้บริหารระดับสูงทั้ง 3 คน พบว่า ธนาคารหักเงินไปทั้งสิ้น 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 719 ล้านบาท
ในเอกสารดังกล่าว ธนาคารระบุว่า แม้ผู้บริหารทั้ง 3 คน จะไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับช่วงเวลาที่มีการฉ้อโกงกองทุยระดับชาติของมาเลเซีย แต่คณะกรรมการผู้บริหารธนาคารมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจากกรณี 1MDB เป็นความล้มเหลวของทั้งสถาบันที่ไม่สอดคล้องกับความคาดหวังที่บอร์ดมีต่อบริษัท
อ้างอิง; CNA, CNN, Fortune, WSJ, Reuters
ข่าวที่เกี่ยวข้อง;