นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 4 พรรคเพื่อไทย ระบุถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประกาศที่ จ.ชัยนาทไม่เอาร่าง พ.ร.บ.ข้าว ว่า เป็นความรู้สึกที่ช้าไป อาจจะเกรงใจรัฐบาล เกรงใจสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แต่ชาวนาไปไกลแล้วว่า ทำอย่างไรจะได้รัฐบาลที่เข้าใจชาวนา ซึ่งวันเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.นี้ ชาวนาจะเลือกรัฐบาลด้วยมือของชาวนาเอง

นายชวลิต ระบุว่า ร่าง พ.ร.บ.ข้าว มีบทบัญญัติควบคุมชาวนา จึงเหมือนกับมาซ้ำเติมความทุกข์ทางด้านจิตใจของชาวนาให้เจ็บช้ำน้ำใจมากขึ้น รวมทั้งก่อให้เกิดภาพจำติดอยู่ในสมองของชาวนา 4 ประการคือ ประการแรก มีหลักคิดอย่างไรถึงกำหนดโทษทางอาญาถึงขั้นมีโทษจำคุกแก่ผู้จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ได้จดทะเบียนได้ใบรับรองเมล็ดพันธุ์ ทำไมไม่นำ พ.ร.บ.พันธุ์พืช และ พ.ร.บ.ค้าข้าว ที่มีอยู่มาปรับใช้ ส่วน พ.ร.บ.ข้าว ควรจะมีหลักคิดในการส่งเสริม สนับสนับสนุนชาวนาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ไม่ใช่มาควบคุม

ประการที่สอง การที่รัฐบาลให้คำแนะนำชาวนาที่ต้องการขายเมล็ดพันธุ์ข้าวว่า ต้องไปจดทะเบียนเหมือนกับผู้ต้องการค้าอาหาร ซึ่งต้องขออนุญาตต่อ อ.ย.นั้น ชาวนามีภาพจำไว้หมดแล้วว่า ผู้ที่จะเปลี่ยนวิถีชิวิตของชาวนา ที่มีการพึ่งพากัน เอื้ออาทรกัน แล้วเปลี่ยนมาเป็นหลักคิดใช้การควบคุมเป็นหลัก คือใคร 

ประการที่สาม การเริ่มแสดงความเห็นคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.ข้าว เริ่มจากการจัดเสวนาของทีดีอาร์ไอ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย สมาคมโรงสี สมาคมผู้ส่งออก ล้วนเป็นองค์กรหลักที่เกี่ยวข้องกับชาวนา การผลิตข้าว และการจำหน่ายข้าว บวกกับองค์ความรู้ทางวิชาการของทีดีอาร์ไอ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ ไม่ได้รับฟังความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ การที่มีชาวนามายกป้ายสนับสนุนกรรมาธิการวิสามัญบางส่วนจึงขาดน้ำหนักโดยสิ้นเชิง

ประการสุดท้าย หลังจากมีเสียงคัดค้าน พ.ร.บ.ข้าว จากชาวนา และหลายภาคส่วนทั่วสารทิศ กมธ. ได้ปรับแก้ ร่าง พ.ร.บ.ข้าว ถึง 40 มาตรา เป็นการแก้ไข 19 มาตรา และเพิ่มขึ้นใหม่ ถึง 20 มาตรา แทบจะจำเค้าเดิมไม่ได้ แต่หลักคิดยังเหมือนเดิม คือ การควบคุม ซึ่งเป็นหลักคิดที่ล้าสมัย ควรส่งเสริม สนับสนุน สร้างความเข้มแข็งให้ชาวนา สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น

นายชวลิต ยังย้ำวา จากนี้ไปในวันที่ 26 ก.พ. นี้ กมธ.จะมีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ข้าว ท่ามกลางการติดตามของชาวนา และหลายภาคส่วนที่ให้ความสำคัญติดตามการพิจารณาของ สนช. ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีสมาชิกจำนวนมากที่ให้ความสำคัญติดตามร่าง พ.ร.บ.ข้าว อย่างใกล้ชิดเช่นกัน