การเช่ารถ เป็นตัวเลือกหนึ่งในการเดินทางสำหรับผู้ที่ไม่มีรถเป็นของตัวเอง แต่ชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งกลับเริ่มหันมาเช่ารถมาจอดทิ้งไว้เฉยๆ
โอริกซ์ออโต (Orix Auto Corp.) บริษัทให้บริการเช่ารถของญี่ปุ่น ซึ่งมีผู้ใช้งานลงทะเบียนในระบบราว 230,000 ราย ได้ทำการตรวจสอบบันทึกเลขไมล์ของรถเช่าแล้วพบว่าในช่วงฤดูร้อนของปี 2018 รถยนต์จำนวนหนึ่งถูกคืนโดยไม่ได้ขับออกไปไหนเลย
"เรานึกไม่ออกเลยว่าจริงๆ แล้วพวกเขานำรถของเราไปใช้ทำอะไร สิ่งเดียวที่เรารู้คือข้อมูลบอกว่าคนจำนวนหนึ่งเช่ารถโดยไม่ได้ขับไปไหนเลย" ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโอริกซ์ระบุ
บริษัทให้บริการเช่ารถรายอื่นก็เผยกับสำนักข่าวอาซาฮีเช่นกัน ว่ารถที่เช่าถูกนำมาคืนโดยมีเลขไมล์เพิ่มขึ้นน้อยอย่างผิดปกติ จึงได้ทำการสำรวจผู้บริโภคเพื่อหาคำตอบของปริศนานี้
ไทมส์24 (Times24 Co.,) บริษัทให้บริการเช่ารถยนต์ ซึ่งมีผู้ใช้งานลงทะเบียนกว่า 1.2 ล้านราย พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามรายหนึ่งระบุว่า เช่ารถไปเพื่องีบหลับหรือใช้เป็นห้องทำงาน ขณะที่อีกรายหนึ่งเผยว่าเช่ารถไปเพื่อเก็บกระเป๋าและสัมภาระส่วนตัวอื่นๆ ในกรณีที่ตู้เก็บของสาธารณะแบบหยอดเหรียญไม่ว่าง
ไม่ใช่แค่ยานพาหนะ แต่คือสถานที่ส่วนตัว
พนักงานบริษัทชาย วัย 31 ปี ผู้อาศัยในจังหวัดไซตามะ ใกล้กับกรุงโตเกียว เล่าว่าเขาเช่ารถเพื่อเป็นที่กินข้าวและงีบหลับ
"ผมเช่ารถมากินข้าวกล่องที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ เพราะหาที่กินข้าวเที่ยงที่อื่นไม่ได้เลย แล้วปกติแล้วที่เดียวที่ผมงีบหลับได้ระหว่างรอลูกค้าของบริษัท ก็คือร้านเน็ตคาเฟ่หน้าสถานีรถไฟ แต่การเช่ารถมานอนก็ไม่กี่ร้อยเยนเอง (ประมาณ 100-200 บาท) แทบจะพอๆ กับไปเน็ตคาเฟ่ด้วย" เขากล่าว
ทั้งนี้ เน็ตคาเฟ่ในประเทศญี่ปุ่นจะต่างกับร้านอินเทอร์เน็ตที่ไทย โดยมีการกั้นห้องปิดประตูเป็นส่วนตัว ทำให้มีผู้ใช้บริการจำนวนหนึ่ง เช่น ผู้ไร้บ้าน ใช้บริการเป็นที่นอน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 400-600 เยนต่อชั่วโมง (ราว 114-170 บาท)
การเข้าใช้บริการได้ง่ายเป็นข้อได้เปรียบของบริการเช่ารถ ผู้ใช้บริการสามารถจองยานพาหนะได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านสมาร์ตโฟนหากต้องการใช้งานโดยเร่งด่วน ราคาค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 400 เยน (ราว 114 บาท) ต่อ 30 นาที และสามารถรับรถได้ที่ลานจอดของบริษัทซึ่งมีอยู่กว่า 12,000 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น
ข้อได้เปรียบนี้ มีส่วนทำให้ผู้ใช้บริการเลือกเช่ารถเพื่อใช้งานด้วยจุดประสงค์เฉพาะตัวกัน
สำนักข่าวอาซาฮี ยังรายงานอีกว่า ผลการสำรวจจากบริษัทอื่นๆ เองก็เผยว่าจำนวนผู้ใช้งานที่เช่ารถเพื่อเหตุผลอื่นๆ นอกจากการเช่าไปขับก็เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
ในปี 2018 บริษัทให้เช่ารถ เอ็นทีที โดโคโม (NTT Docomo Inc.,) ได้สำรวจผู้ใช้บริการ 400 ราย พบว่าทุกๆ 8 คนที่เช่ารถ จะมี 1 คนที่เช่ารถเพื่อไปใช้ในจุดประสงค์อื่นนอกจากการเดินทาง โดยผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากระบุว่าพวกเขานอนหลับหรือนั่งพักในรถเช่า รองลงมาระบุว่าเช่ารถเพื่อใช้เป็นสถานที่ส่วนตัวในการคุยโทรศัพท์กับเพื่อน ครอบครัว หรือลูกค้าบริษัท นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้เช่ารถไปใช้ในกรณีอื่นๆ เช่น ดูทีวี ใช้เป็นที่เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดฮาโลวีน ฝึกร้องเพลง ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ยืดกล้ามเนื้อใบหน้าโดยเชื่อว่าจะลดขนาดของหน้าลงได้
"รถยนต์สามารถใช้เป็นพื้นที่ส่วนตัวได้ ผู้คนใช้รถของเราด้วยวิธีต่างๆ มากเกินกว่าที่เราเคยคาดคิดไว้" ทางเอ็นทีทีโดโคโมระบุ
ในกรณีเฉพาะอย่างหลังเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในปี 2011 รถเช่ายังถูกนำไปใช้เพื่อชาร์จโทรศัพท์มือถืออีกด้วย
แม้ว่าโดยส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้บริการเช่ารถก็ใช้เพื่อขับขี่เดินทางตามปกติ แต่ผู้ที่นำรถเช่าไปใช้ในแบบอื่นๆ ก็กำลังเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอาซาฮีชี้ว่าการเช่ารถไปติดเครื่องยนต์จอดไว้เฉยๆ เพื่อดับร้อนหรือคลายหนาวจากอากาศในฤดูต่างๆ ก็อาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งการเช่ารถในลักษณะนี้ทำให้บริษัทเสียรายได้เช่นกัน เพราะหากผู้เช่าใช้รถวิ่งเป็นระยะทางไกล บริษัทก็จะเก็บค่าใช้จ่ายจากระยะที่วิ่งได้ด้วย
ทางด้านฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโอริกซ์ระบุว่า ผู้ขับขี่ควรดับเครื่องยนต์เมื่อไม่ได้ขับ และไม่แนะนำให้ผู้ใช้บริการเช่ารถเพื่อจุดประสงค์อื่นนอกจากการเดินทาง
"เราเชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุดในการใช้รถของเราก็คือการขับ"
ที่มา: The Verge / Asahi Shimbun
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
