ทางการของกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนที่มีประชากรหนาแน่นราว 21.54 ล้านคน สั่งเร่งตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาอย่างเร่งด่วนให้กับประชาชนราว 20 ล้านคน ท่ามกลางการระบาดของโอไมครอนที่กำลังสร้างความกังวลอย่างยิ่งให้กับจีนที่ยึดนโยบาย 'โควิดเป็นศูนย์' โดยในวันที่ 25 เม.ย.ซึ่งเป็นการตรวจวันแรก มีการตรวจไปแล้วมากกว่า 3.7 ล้านคน

CNN รายงานว่าเจ้าหน้าที่เร่งตรวจหาเชื้อในเฉาหยาง พื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจของกรุงปักกิ่งที่เป็นที่ตั้งของสถานเอกอัคราชทูตนานาชาติและบริษัทต่างชาติมากมาย โดยตั้งเป้าไว้ว่าต้องมีการตรวจเชื้อแบบปูพรมให้ได้ 3 รอบในระยะเวลา 5 วัน ทำให้เราได้เห็นภาพประชากรในเมืองต่อคิวยาวเหยียดเพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อครั้งใหญ่

ในการตรวจวันที่ 2 ทางการปักกิ่งขยายพื้นที่การตรวจให้กว้างขึ้นเกือบครบทุกเขต ครอบคลุมประชากรไม่น้อยกว่า 19.5 ล้านคน  

"การระบาดของโรคในกรุงปักกิ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและร้ายแรง" ซูเหอเจี้ยน โฆษกรัฐบาลกรุงปักกิ่งกล่าวที่งานแถลงข่าว พร้อมยอมรับว่าความพยายามในการควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของปักกิ่ง "มาถึงจุดวิกฤตอันตรายแล้ว"

ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการตรวจพบการติดเชื้อใหม่ 29 คนใน 24 ชม.ระหว่าง 16.00 น.ของวันที่ 24 และ 25 เม.ย. ซึ่งทางการจีนย้ำว่าเป็นการพบเชื้อในเขตที่อยู่ใต้การควบคุมอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นการตรวจพบเชื้อในพื้นที่ทั่วไป

ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.จนถึงปัจจุบันมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อใหม่แล้ว 80 คน แต่ทางการปักกิ่งยืนยันจะไม่ยอมเสี่ยง เพราะจากตัวอย่างของเซี่ยงไฮ้ทำให้เห็นแล้วว่าจากตัวเลขตั้งต้นเพียงหลักสิบราย ขณะนี้พุ่งสูงสะสมหลายแสนคน โดยขณะนี้มีการสั่งล็อกดาวน์เข้มแล้วใน 8 เขตของปักกิ่ง สั่งห้ามผู้คนห้ามออกจากบ้านและเขตชุมชนโดยเด็ดขาด

ทางการปักกิ่งยังได้สั่งยกเลิกการจัดงานที่มีการรวมตัวของผู้คนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการแสดงทางวัฒนธรรม คอนเสิร์ต กีฬา การเรียนพิเศษ การเทรนนิง และงานนิทรรศกาลต่างๆ ขณะที่ร้านค้าหลายแห่งเลือกที่จะขยายช่วงเวลาการเปิดเพื่อกระจายการรวมตัวของผู้คน ซึ่งมีประชากรจำนวนมากพยายามกักตุนสินค้าในช่วงนี้