คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งระบุกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยประกาศนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แสดงจุดยืนอยากเป็นนายกฯ โดยเปิดทางให้พรรคในเครือข่ายนายทักษิณ ชินวัตร มาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ว่า สิ่งที่นายสุเทพพูดเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะในรัฐสภามีแค่ฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยประกาศชัด ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต่อท่ออำนาจให้ พล.อ.ประยุทธ์ และไม่ต่อท่อให้กับพรรคการเมืองที่สนับสนุน คสช. นั่นก็คือ พรรคพลังประชารัฐ
รวมถึงพรรคการเมืองไม่ศรัทธาและเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยและรัฐสภาอย่างแท้จริง เช่น พรรคการเมืองที่บอยคอตไม่ลงเลือกตั้งหลังยุบสภา และหลังรัฐประหารไปจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารให้อำนาจนอกระบบเข้ามาจัดการ และเอาเวทีประชาธิปไตยโยนให้กับฝ่ายอำนาจนอกระบบประชาธิปไตย เสมือนสมคบคิดกันทำให้ระบบและกลไกของระบอบประชาธิปไตยและรัฐสภาเดินไม่ได้จนต้องรัฐประหาร ถือเป็นการกวักมือเรียกทหารเข้ามาช่วย หรือแม้แต่ยุบสภาแล้วก็ไปขัดขวางเลือกตั้งปิดหน่วยเลือกตั้ง ถือเป็นพรรคการเมืองที่ไม่ยึดมั่นและศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยจริง
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวว่า ส่วนความพยายามที่จะสร้างวาทกรรมเผด็จการรัฐสภานั้น ยืนยันวาทกรรมนี้ไม่มีอยู่จริง เพราะทุกพรรคที่เป็นรัฐบาลก็ได้เสียงข้างมาก และถ้าเสียงข้างมากทำเลวทำไม่ดีทุจริตโกงกิน ซึ่งการเลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนจะพิพากษาเอง แต่ประเทศไทยไม่เคยปล่อยแบบนั้นเลย เพราะพรรคการเมืองที่อยู่ในระบบกับอำนาจนอกระบบที่มาขัดขวางตัดตอนการพัฒนาประชาธิปไตยด้วยการรัฐประหาร และไม่ให้การตรวจสอบทำงานอย่างครบวงจร ทั้งนี้เห็นว่าหากการทำรัฐประหารทำให้ประเทศเจริญได้ คงไม่ทำให้ประเทศเป็นแบบนี้
“วันนี้พรรคประชาธิปัตย์จึงพยายามเรียกคะแนนจากประชาชนในช่วงโค้งสุดท้าย เพราะประชาธิปัตย์รู้แล้วว่าคนส่วนใหญ่ไม่อยากให้มีการต่อท่ออำนาจจึงพยายามออกมาบอกว่าไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่เคยบอกว่าไม่เอาพรรคพลังประชารัฐอย่างชัดเจนเหมือนที่พรรคเพื่อไทยพูด จึงเชื่อว่าวาทกรรมทั้งหมดเป็นเพียงการหวังคะแนนก่อนการเลือกตั้ง แต่ท้ายที่สุดเชื่อว่าหลังการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์จะหาเหตุผลใหม่”
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังยกสมการการจับมือพรรคการเมืองว่า พรรคเพื่อไทยไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ประกาศไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทย จึงย้อนถามว่าแล้วพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมมือกับใคร
“อยากให้นายอภิสิทธิ์พูดมาตรงๆ ไม่ใช่ไปตกหลุมที่ตัวเองขุดไว้เผื่อจนพันคอตัวเองจนตกหลุม อย่าทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เอาตรงๆ หากจะร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐก็ไม่ผิด ควรจะบอกไปตรงๆ อย่าบอกว่าไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ แต่ร่วมกับพลังประชารัฐได้ เพราะในสภามีสองขั้วคือรัฐบาลกับฝ่ายค้านไม่ใช่แบ่งขั้วตีกัน สมการมีแค่นี้ ไม่เข้าใจนายอภิสิทธิ์ไปพูดอะไร ถ้าไม่หวังจะเอาคะแนนคนไม่ต้องการสืบทอดอำนาจซึ่งมีจำนวนเยอะ เขาก็พยายามพูดให้เท่ ดูหล่อ ว่าไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่เคยปฏิเสธพรรคพลังประชารัฐ” คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ
เมื่อถามว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์แต่เอาพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะสืบทอดอำนาจให้ คสช.หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า เชื่อว่านายอภิสิทธิ์จะพูดด้วยเหตุผลหล่อๆ หลังการเลือกตั้งว่าท้ายที่สุดต้องร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ
ส่วนวาทกรรมที่บอกว่าเป็นประชาธิปไตยสุจริต ไม่อยู่ขั้วไหนนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า วันนี้ทุกคนต่างหาเสียง แม้จะอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยก็ไม่เคยบอกว่าทิศทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ทุกคนต่างแข่งขันในสนามอย่างเป็นธรรม ซึ่งทางเลือกสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้มีอยู่เพียงจะสืบทอดอำนาจหรือไม่สืบทอดอำนาจเท่านั้น แต่ขอพรรคการเมืองอย่าหลอกประชาชน แต่ต้องแสดงจุดยืนชัดเจนว่าเอาคนที่สืบทอดอำนาจหรือไม่สืบทอดอำนาจ
แต่ขณะนี้มีบางพรรคการเมืองหวังเพียงว่าเอาอะไรก็ได้เพื่อให้ได้คะแนนเสียงจากประชาชนก่อนการเลือกตั้งและหลังการเลือกตั้งก็ออกมาชี้แจงเหตุผลใหม่ ส่วนตัวเห็นว่าประชาธิปไตยก็คือประชาธิปไตย การทุจริตเป็นสิ่งที่ผิดแล้วทุกพรรคและพรรคประชาธิปัตย์ก็มีเรื่องทุจริต แม้แต่ฝ่ายทหารที่มาปกครองประเทศก็มีเรื่องกล่าวหาทุจริตเช่นกัน ดังนั้น จึงเห็นว่าการทุจริตไม่เกี่ยวว่ามีประชาธิปไตยสุจริตหรือไม่ แต่เป็นการออกแบบวาทกรรมให้ออกมาสวยงามเท่านั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง