ไม่พบผลการค้นหา
'แพทองธาร' ลงพื้นที่ช่วย ส.ก.หาเสียงครั้งที่ 2 อ้อนขอฝากไว้ในอ้อมใจ ลั่นถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาปากท้องเหมือนสมัยไทยรักไทย ยืนยันจะดึงนโยบาย 30 บาทรักษาทักโรคกลับมา เจอหญิงสูงวัยร่ำไห้บอก “รากหญ้าจะตายแล้ว” ทำให้ ‘แพทองธาร’ รับปากจะไม่ทิ้งรากหญ้า ถ้า ‘เพื่อไทย’ ได้เป็นรัฐบาล

วันที่ 12 พ.ค. 2565 แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรคภาค กทม. ลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคเพื่อกทยครั้งที่ 2 โดยนำคณะลงช่วยหาเสียงให้กับ ชญาดา วิภัติภูมิประเทศ ผูัสมัคร ส.ก.เขตคันนายาว หมายเลข 5 โดยหาเสียงย่านรามอินทราและคันนายาว

จากนั้น แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกอบอุ่นมากๆ วันนี้ไปที่ไหนมีแต่คนรู้จัก ส.ก.ของพรรคฯ ดังนั้นแสดงว่า ส.ก.ได้ลงพื้นที่จริง ซึ่งระหว่างลงพื้นที่ประชาชนก็บอกว่า ช่วงโควิดมีแต่พรรคเพื่อไทยที่เข้ามาดูแล เมื่อได้ฟังแล้วรู้สึกใจฟูขึ้นมาเลย เพราะชาวบ้านบอกเล่าด้วยความจริงใจจริงๆ

ช่วงหนึ่ง แพทองธาร เล่าพร้อมน้ำตาคลอว่า ระหว่างลงพื้นที่พบบ้านหนึ่งพบภรรยาสูญเสียหัวหน้าครอบครัว ทำให้ต้องอยู่กับแมว ซึ่งตนคิดว่าถ้าพรรคเพื่อไทยได้เข้ามาจะผลักดันนโยบายต่างๆในการดูแลประชาชน เพราะถ้าใครได้เป็นรัฐบาลประชาชนต้องเป็นเรื่องสำคัญสุด "ประชาชนต้องมาก่อน" 

แพทองธาร.jpg

พร้อมยืนยันว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลสามารถผลักดันนโยบายสาธารณสุข 30 บาทได้อย่างแน่นอน เพราะเรา(ประเทศ) มีงบประมาณที่จะจัดทำเรื่องนี้ แต่ สปสช.แก้แต่ปัญหาเฉพาะหน้า อย่างเมื่อมีเรื่องโควิด-19 แบบนี้มันต้องมีแพลนไปในอนาคต ไม่ควรมารอแก้แต่ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างเดียว ซึ่งสถานการณ์ปัญหาสาธารณสุขที่ผ่านมาไม่ควรเป็นเช่นนั้น

เมื่อถามว่าปัญหาอะไรที่อยากแก้ไขทันทีถ้ามีอำนาจในมือ หรือวันหนึ่งได้เป็นนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ระบุว่า ทั้ง 5 นโยบายของ ส.ก.ที่ได้นำเสนอไป เพราะตลอดการลงพื้นที่ 2 ครั้ง ก็ได้ฟังเสียงความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะเรื่องสินค้าบริโภคที่แพงขึ้นทั้งที่สถานการณ์โควิดลดลง แต่ราคาสินค้ายังแพงเหมือนเดิม และมั่นใจว่านโยบายที่เสนอไปจะเป็นประโยชน์กับคนกรุงเทพฯ ฉะนั้นขอโอกาสให้พรรคเพื่อไทย

แพทองธาร.jpg

เมื่อถามว่าการที่พรรคเพื่อไทยไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.จะส่งผลต่อการตัดสินใจเลือก ส.ก.หรือไม่ แพทองธาร มองว่า การที่ ส.ก.ได้เสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อคนกรุงเทพฯ หากใครเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ ก็พร้อมที่จะทำงานกับทุกคน เพราะพรรคเพื่อไทยยึดหลักประชาธิปไตยเสมอไม่ว่าใครจะเข้ามา แต่อยากให้เลือก ส.ก.ของพรรคเยอะๆ เพื่อผลักดันนโยบายได้ง่ายขึ้น ส่วนจะได้จำนวน ส.ก.เท่าไหร่ก็แล้วแต่ประชาชนตัดสิน แต่โดยส่วนตัวอยากให้ได้เกินครึ่งเยอะๆ และอยากให้เลือกคนที่ตั้งใจเข้ามาทำงาน อย่าเลือกคนที่แค่นำเสนอ 

แพทองธาร_34.jpg

นอกจากนี้ยังปฏิเสธว่า การลงพื้นที่หาเสียงบ่อย ไม่ได้เป็นการซ้อมเลือกตั้งสนามใหญ่ เพราะตนตั้งใจช่วย ส.ก.ไม่ใช่หาเสียงให้ตัวเอง เพราะ ส.ก.ของพรรคทุกคนทำงานหนัก

ช่วงท้ายเมื่อถามว่าการลงพื้นที่ 2 ครั้งพบว่าประชาชนมีแต่ถามถึงอดีตนายกฯ ทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น แพทองธาร ระบุว่า นี่เป็นสิ่งที่ยากสำหรับตนเพราะคุณพ่อและคุณอา ตนสนิทและผูกพันทั้งคู่และเจอกันบ่อย เมื่อได้ยินใครพูดแบบนี้ก็อยากจะไลน์หาเลยว่ายังมีประชาชนคอยให้กำลังใจอยู่ พร้อมยืนยันว่า ตนสำหรับครอบครัวยังเป็นคนเดิมแม้เข้ามาทำงานการเมือง เพียงแค่มีหน้าที่ใหม่เข้ามาเท่านั้น

แพทองธาร.jpg

ทั้งนี้ ระหว่างพบประชาชนบริเวณหมู่บ้านเก้าแสน เขตคันนายาว แพทองธาร กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาลงพื้นที่เองและขอฝาก ส.ก.พรรคเพื่อไทยไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วย ซึ่งตอนนี้ก็ขอฝาก ส.ก.ไว้ก่อน แต่ถ้ามีเลือกตั้งใหญ่ของประเทศเมื่อไหร่ และพรรคเพื่อไทยได้มีโอกาสเข้ามาทำงานให้ประชาชน ก็จะทำให้สุดความสามารถ เพราะปัญหาปากท้องประชาชนคือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญมาตลอดตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย และวันนี้ก็ยังเป็นเป้าหมายเดิมที่ความสุขปากท้องของประชาชน คือเรื่องสำคัญ

แพทองธาร.jpgแพทองธาร.jpg

ผู้สูงวัยร่ำไห้คิดถึง ‘โทนี่’ ย้ำรากหญ้าจะตายแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยระหว่าง แพทองธาร ลงพื้นที่ มีหญิงผู้สูงอายุรายหนึ่งได้สะท้อนปัญหาเศรษฐกิจและความลำบากของคนรากหญ้า จากนั้นได้สะอื้นก่อนร่ำไห้แล้วบอกว่า “รากหญ้าจะตายแล้ว” พร้อมระบุว่า ‘คิดถึงพ่อทักษิณ (ชินวัตร) อดีตนายกฯ” แพทองธาร ตอบว่า “เอาคนหน้าเหมือนกันไปก่อนนะ” พร้อมทั้งให้กำลังใจหญิงผู้สูงอายุคนดังกล่าว โดยปลอบว่าอย่าร้อง เดี๋ยวตนเองจะร้องตาม

ขณะเดียวกัน ‘แพทองธาร’ ยังให้คำมั่นสัญญาโดยรับปากว่า ขอให้รอการเลือกตั้งแล้วเลือกพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล โดยสัญญาว่าจะไม่ทิ้งคนรากหญ้าแน่นอน