เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 30 ส.ค. ที่อนุสรณ์สถาน14 ตุลา กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จัดงาน "วันผู้สูญหายสากล" โดยมีนิทรรศการ "ห่าง/หาย", การปราศรัย, การแสดงดนตรีและอ่านบทกวี ซึ่ง พันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ หรือ "พ่อน้องเฌอร์" ร่วมอ่านบทกวีด้วย นอกจากนี้ยังเวทีพูดคุยจากญาติและผู้ที่ทำงานด้านผู้ลี้ภัยและการบังให้สูญหาย ซึ่งถ้าเห็นพ้องกันเกี่ยวกับการพนันให้รัฐไทยมีกฎหมายป้องกันการซ้อมทรมานและบังคับให้สูญหาย ซึ่งกำลังจะมีการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรต้นเดือน ก.ย. นี้ และประเด็นที่เกี่ยวเนื่อง 

ขณะที่ วจนา วรรลยางกูร บุตรสาว วัฒน์ วรรลยางกูร นักเขียนผู้ลี้ภัยทางการเมือง กล่าวเคารพและชื่นชมในความกล้าของญาติผู้ถูกอุ้มหายทุกคน ที่ต้องการรู้ความจริงและพยายามค้นหาญาติ ท่ามกลางความยากลำบากและความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งปัญหาเกิดจากความอยุติธรรมและโครงสร้างสังคม ที่ทำให้การพูดความจริงหรือตามหาคนที่หายและเรียกร้องความยุติธรรม ต้องเผชิญกับอันตรายหรือกระทั่งอาจถูกอุ้มหายไปเสียเอง และคำถามสำคัญคือสังคมไทยไม่ควรปล่อยให้เรื่องลักษณะนี้เกิดขึ้น

ด้าน กัญญา ธีรวุฒิ มารดาของ สยาม ธีรวุฒิ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่คาดว่าโดนอุ้มฆ่า กล่าวว่า ไม่ควรมีการยัดคดีร้ายแรงหรือใช้ความรุนแรง และอุ้มหาย-อุ้มฆ่าผู้มีความคิดแตกต่างทางการเมือง และยังกล่าวถึงความไม่กระตือรือร้นหรือใส่ใจคนสูญหายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ด้วย

สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาว "ต้าร์ วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์" กล่าวว่า กรณีการหายตัวไปของ วันเฉลิม ท่ามกลางความไม่สนใจใยดีของทั้ง ภาครัฐไทยและรัฐบาลกัมพูชาที่จะเอื้ออำนวยความยุติธรรมหรือช่วยดำเนินการในการตามหาตัวผู้สูญหาย โดยเฉพาะโดยเฉพาะรัฐไทยเอง ซึ่งสะท้อนความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยว่าได้ก่อความตัวขึ้นเยอะมากๆ เพราะ 90 วันแล้ว ทางการไทยยังไม่มีคำตอบใดๆให้กับทางครอบครัวเลย พร้อมยืนยันว่า จะทำทุกอย่างเพื่อให้โลกรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย และขอให้ทุกคนช่วยเป็นกำลังใจให้ตนหลังจากนี้ที่จะทำให้ดีที่สุดในการตามหาตัว "วันเฉลิม" และตีแผ่ให้สังคมหรือว่าอะไรเกิดขึ้นกับวันเฉลิม โดยยืนยันว่า รัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบหรือทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นว่ามีคนไทยถูกอุ้มหายไม่ได้

ภายในงานยังมีการปราศรัย โดย สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกคุกคาม และ พะเยาว์ อัคฮาด หรือ "แม่น้องเกด" กมนเกด อัคฮาด

พะเยาว์ กล่าวถึง คดีความของบุตรสาวที่ไม่คืบหน้าตลอด 10 ปีที่ผ่านมา และยังถูกโอนมาจากศาลยุติธรรมปกติหรือศาลพลเรือนมาดองไว้ที่ศาลทหาร และระบุถึงความอยุติธรรมในสังคม ขณะที่ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา คนไทยทนนิ่งและปล่อยให้รัฐบาลสืบทอดอำนาจรัฐประหารบริหารประเทศ กระทั่งคนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาขับไล่ ซึ่งแสดงว่าคนรุ่นใหม่ไม่ยอมทนอยู่ภายใต้อำนาจรัฐแบบนี้ อย่างที่ "คนเสื้อแดง" ไม่ยอมทนและลุกขึ้นสู้มาแล้ว จึงอยากเรียกร้องให้ "คนเสื้อแดง" และประชาชนที่รักประชาธิปไตยรักความเป็นธรรม ต้องออกมาเป็นโล่ให้กับเยาวชนนักศึกษา โดยไม่ชี้นำ แต่ให้การสนับสนุนและให้คำปรึกษาเท่านั้น