นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เผยสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ วันแรกที่มีการควบคุมเข้มงวด (11 เม.ย. ) ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2562 มีคดีเข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติทั่วประเทศ จำนวน 563 คดี จำแนกเป็น
คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 410 คดี คิดเป็นร้อยละ 72.82
คดีขับเสพ จำนวน 147 คดี คิดเป็นร้อยละ 26.11
คดีขับรถประมาท จำนวน 6 คดี คิดเป็นร้อยละ 1.07
จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 56 คดี กรุงเทพมหานคร จำนวน 55 คดี และจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 30 คดี
ส่วนการดำเนินการติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวกับผู้กระทำผิด (EM) จำนวนทั้งสิ้น 20 ราย แบ่งเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 18 ราย คดีขับเสพยาเสพติด จำนวน 2 ราย
ส่วนใหญ่กำหนดเงื่อนไขห้ามออกจากที่พักอาศัย ตั้งแต่เวลา 22.00 - 04.00 นาฬิกา เป็นเวลา 7-15 วัน คุมความประพฤติ 1 ปี รายงานตัวจำนวน 4 ครั้ง พร้อมทั้งทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง เป็นต้น
ทั้งนี้สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศได้มีการเตรียมความพร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) หากศาลมีคำสั่งใช้อุปกรณ์ดังกล่าวแล้วสามารถดำเนินการได้ทันที
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กรมคุมประพฤติ มีมาตรการเข้มสำหรับผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ภายใต้คำสั่งศาล ซึ่งนอกจากการรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติแล้วต้องทำงานบริการสังคม เพื่อสร้างจิตสำนึกและให้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม เช่น การช่วยอำนวยความสะดวก ณ จุดตรวจค้น จุดบริการประชาชน ด่านชุมชน การเป็นอาสาจราจร ตลอดจนบริการช่วยเหลือประชาชน คนชรา คนพิการ ที่มีกระเป๋าสัมภาระในการเดินทางกลับภูมิลำเนา
สำหรับมาตรการกับผู้กระทำผิดซ้ำ กรมคุมประพฤติจะดำเนินการคัดกรองตามแบบประเมินพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากพบว่ามีความเสี่ยงสูงในการติดสุราจะส่งต่อให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการเพื่อรับการบำบัดรักษาฟื้นฟูสภาพผู้ดื่มแล้วขับตามสถานพยาบาล ภายใต้โครงการ “บำบัดรักษาฟื้นฟูสภาพผู้ดื่มแล้วขับ ถูกจับ ผิดซ้ำ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี พ.ศ. 2562” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่องมาจากช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา