การเมือง
ศบค.ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เล็งซื้อวัคซีนราคาถูกต่อจากฮังการี-สเปน ย้ำเข็ม 2 ฉีด 70% ในปีนี้
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 ก.ย. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ออกไปอีก 2 เดือน พร้อมกับปรับเปลี่ยนมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 โดยเฉพาะใน 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่ประกอบด้วย
กรุงเทพฯ, กาญจนบุรี, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, ตาก, นครปฐม, นครนายก, นครราชสีมา, นราธิวาส, นนทบุรี, ปทุมธานี, ประจวบคีรีขันธ์, ปราจีนบุรี, ปัตตานี, พระนครศรีอยุธยา, เพชรบุรี, เพชรบูรณ์, ยะลา, ระยอง, ราชบุรี, ลพบุรี, สงขลา, สิงห์บุรี, สมุทรปราการ, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, สระบุรี, สุพรรณบุรี, อ่างทอง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ทั้งนี้ จะมีการปรับมาตรการเริิ่มวันที่ 1 ต.ค. นี้ โดยการเปิด กิจกรรมการ ประกอบด้วย ศูนย์พัฒนาเด็กฯ ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้ ร้านสัก ร้านทำเล็บ โรงภาพยนตร์ การเล่นดนตรีในร้านอาหาร สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กีฬาในร่ม
ส่วนการควบคุมสถานที่และกิจกรรม มีรายละเอียด ดังนี้
• ลดเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน เป็น 22.00 น. – 04.00 น.
• ขยายเวลาเปิดร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ตลาดนัด ถึง 21.00 น.
• ร้านอาหาร เปิดถึง 21.00 น. โดยแสดงดนตรีในร้านได้ สำหรับร้านไม่มีเครื่องปรับอากาศ นั่งได้ 75 %, ร้านติดเครื่องปรับอากาศ นั่งได้ 50% งดดื่มสุราในร้าน
• ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้ถึง 21.00 น. ยกเว้น ตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก สวนน้ำ ห้องประชุม/จัดเลี้ยง
• เปิดร้านเสริมสวย สถานเสริมความงาม ไม่เกิน 21.00 น. ยกเว้นการใช้ไอน้ำ
• สถานที่เล่นกีฬา เปิดถึง 21.00 น. สามารถแข่งขันได้ไม่มีผู้ชม ส่วนกีฬากลางแจ้ง แข่งขันได้ ผู้ชมไม่เกิน 25% ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ มีผล ATK หรือ RT-PCR เป็นผลลบไม่เกิน 72 ชั่วโมงโดยผ่านคณะกรรมการโรคติดต่อ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบการลดระยะเวลาในการกักตัวของผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย แบ่งเป็น 1) กลุ่มที่มีเอกสารยืนยันการฉีดวัคซีนครบแล้ว กักตัว 7 วัน 2) ผู้ไม่มีเอกสารการฉีดวัคซีน หากเข้ามาทางอากาศยานกักตัว 10 วัน เข้ามาทางบกกักตัว 14 วัน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ศบค.ยังเห็นชอบการกำหนดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวในระยะที่ 1 10 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1-30 พ.ย.ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี(เทศบาลเมืองชะอำ) ชลบุรี(พัทยา อำเภอบางละมุง ตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่) ระนอง (เกาะพยาม) เชียงใหม่(อำเภอเมืองแม่ริม แม่แตง ดอยเต่า เลย (เชียงคาน) บุรีรัมย์(เมือง)
ระยะที่ 2 วันที่ 1-31 ธ.ค. จำนวน 20 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน แพร่หนองคาย สุโขทัย เพชรบูรณ์ ปทุมธานี อยุธยา สมุทรปราการ ตราด ระยอง ขอนแก่น นครราชสีมา นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส
ระยะที่ 3 วันที่ 1 ม.ค. เป็นต้นไป 13 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ สระแก้ว จันทบุรี ตาก นครพนม มุกดาหาร บึงกาฬ อุดรธานี อุบลราชธานี น่าน กาญจนบุรี ราชบุรี สตูล
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ศบค.เห็นชอบแผนการจัดการวัคซีนในประเทศไทยภายในปี 2564 โดยจะเข้ามาทั้งหมด 178.2 ล้านโดสภายในปีนี้
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศ เสนอการจัดซีดวัคซีนจากสหภาพยุโรป ซึ่งมีวัคซีนที่จะขายต่อในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด เช่น ประเทศฮังการี มีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 400,000 โดส ราคาโดสละ 1.78 ยูโร ขณะที่สเปนมีวัคซีนไฟเซอร์ 2,788,110 โดส ราคาโดสละ 15.50 ยูโร วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 165,000 โดส ราคาโดนละ 2.90 ยูโร โดยที่ประชุมได้ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ต่อไป
“ทั้งนี้ ตามแผนปีนี้จะต้องจัดหาวัคซีนให้ได้ 126 ล้านโดส ประชากรไทยมี 70 ล้าน คน โดยปีนี้จะได้รับวัคซีนทั้งหมด 62 ล้านคน ครอบคลุมประชากรร้อยละ 90 โดยจะพยายามฉีดเข็มที่ 2 ให้ได้ร้อยละ 70 ภายในเดือน ธ.ค.นี้”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
