ไม่พบผลการค้นหา
‘ประชาชาติ’ เตือน ‘อนุทิน’ กัญชาอันตรายกว่ากล้วย หาเสียงยากใน 3 จังหวัดใต้ เหตุขัดหลักศาสนา ชี้กัญชาเสรีสุดโต่งเกิน สุญญากาศกฏหมายเอื้อทุนใหญ่ ด้าน ส.ส.ก้าวไกลลุกท้วงข้องใจรัฐมนตรีหายหัวหมดไม่นั่งฟังฝ่ายค้านซักฟอก ขณะที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย พร้อมใจกันงีบหลับระหว่างฝ่ายค้านชำแหละกัญชาเสรี

วันที่ 19 ก.ค. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 13 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วาระพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล กูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ อภิปรายไม่ไว้วางใจ อนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในประเด็นนโยบายกัญชาเสรี ที่มองว่ามีความสุดโต่ง ไม่ได้เป็นไปเพื่อการแพทย์ดังที่ประกาศนโยบายไว้ จนเกิดข้อสงสัยว่าอาจมีบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ได้ประโยชน์จากขยายจุดขายกัญชาในพื้นที่ต่างๆ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเอาผิดไม่ได้ เนื่องจากอยู่ในช่วงสุญญากาศของกฏหมาย 

“ตอนนี้เราสามารถใช้สิบล้อขนกัญชาผ่านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ โดยมีมาตรการควบคุมปลอมๆ มาหลอกเด็ก” กูเฮง ระบุ

ขณะเดียวกัน กูเฮง ยังยกตัวอย่างผลกระทบของกัญชา โดยเปิดคลิปวิดีโอที่เป็นภาพของนักเรียนหญิงคนหนึ่งเดินโซเซ เพราะฤทธิ์กัญชาจนต้องล้มลงไปกองบนพื้น โดยระบุว่าเป็นภาพที่สังคมรับไม่ได้ ผู้ปกครองมาเห็นจะรู้สึกอย่างไร และได้เปิดคลิปการแข่งขันฟุตบอลนัดหนึ่งที่ จ.ปัตตานี ระหว่างทีมบุรีรัมย์ และทีมสิมิลัน จากมาเลเซีย ซึ่งมี ส.ส.พรรคภูมิใจไทย หลายท่านไปร่วมชม และในระหว่างการแข่งขันมีเสียงเชียร์ดังสนั่นจากผู้ชมเมื่อทีมมาเลเซียทำประตูได้ เนื่องจากผู้ชมไม่เชียร์บุรีรัมย์ เพราะไม่ชอบนโยบายกัญชาเสรีที่ขัดศาสนา การหาเสียงด้วยเรื่องนี้จะทำได้ยากมากในจังหวัดภาคใต้ 

กูเฮง ประชาชาติ อภิปรายไม่ไว้วางใจ -1297-4B30-81CD-AA54E5469AEB.jpeg

“กัญชาอาจจะร้ายแรงกว่ากล้วยใน 3 จังหวัดภาคใต้ ผมขอฝากให้ท่านรัฐมนตรียุติหรือชะลอเรื่องนี้หรือดึงให้กัญชาอย่าเพิ่งแพร่ระบาดในสังคม แต่ผมเชื่อว่าน่าจะทำได้ยาก” กูเฮง กล่าว

กูเฮง ระบุว่า การใช้กัญชาเสรีอย่างสุดโต่ง จะทำให้คน 3 จังหวัดภาคใต้ มองว่าจะกลายเป็นแลนด์สไลด์พาวเวอร์ของพรรคใด ตนเชื่อว่าท่านคงคิดเองได้ จากนั้นได้เปิดคลิปเสียงของ อนุทิน ที่กล่าวขณะหาเสียงว่าสามารถปลูกกัญชามีพี้กันเองได้เลย สำหรับชาว 3 จังหวัดภาคใต้ ที่เป็นมุสลิมนับถือศาสนาอิสลาม ถือว่าขัดหลักศาสนาอย่างรุนแรง ทั้งยังมีการตักเตือนประชาชนชาวมุสลิมทุกท่านเกี่ยวกับข้อเสียของกัญชาในการเทศนาทุกวันศุกร์

ระหว่างการอภิปราย ณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ประท้วงการทำหน้าที่ของ ศุภชัย โพธิ์ศุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุมขณะนั้น โดยถามประธานฯได้หันซ้ายหันขวาบ้างหรือไม่ ว่าขณะนี้ในที่ประชุมไม่เหลือรัฐมนตรีคนใดอยู่เลย ทั้ง 11 ท่านที่ถูกอภิปราย หรือแม้แต่ท่านใดท่านหนึ่งใน 36 ท่าน

“ตกลงนี่ท่านไปหารือลาออกหรือยุบสภา พวกผมจะได้รู้ว่าต้องอภิปรายให้ท่านใดฟัง ต้องขออนุญาตให้ท่านประธานฯ กรุณากำชับให้รัฐมนตรีอย่างน้อยมีตัวแทนอยู่สัก 1 ท่าน ในห้องประชุม ก็จะทำให้การอภิปรายดำเนินไปด้วยดี” ณัฐวุฒิ ระบุ

โดย ศุภชัย ชี้แจงว่า เมื่อสักครู่นี้ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ อนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งตนว่าขออนุญาตไปรับประทานอาหาร แต่จะฟังการอภิปรายของสมาชิกอยู่ และเชื่อว่ารัฐมนตรีท่านอื่นๆ จะติดตามฟังการอภิปรายโดยตลอด จากนั้นจึงให้ กูเฮง อภิปรายต่อไป

ภูมิใจไทย มณฑล วิรัช  ประชุมสภา อภิปรายไม่ไว้วางใจ -C055-46E0-8F92-2E4851760977.jpeg

ส.ส.ภูมิใจไทยแอบงีบหลับคาสภาฯ ระหว่างซักฟอก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่งการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ วาระพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล รวมจำนวน 11 คน เป็นวันแรก (19 ก.ค. 2565) ในระหว่างที่ กูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ อภิปรายไม่ไว้วางใจ อนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในประเด็นนโยบายกัญชาเสรี มี ส.ส.ในซีกของพรรคภูมิใจไทย นั่งฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่กันพร้อมเพรียง แต่ทันใดนั้นมี ส.ส.บางส่วนแอบงีบหลับพักสายตาอยู่เป็นเวลา 2-3 นาที อาทิ มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม. พรรคภูมิใจไทย สวาป เผ่าประทาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย วิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อับดุลบาซิม อาบู ส.ส.ปัตตานี พรรคภูมิใจไทย 

วาโย ประชุมสภา -C2F0-4372-B966-09DCED08866A.jpeg

‘หมอเก่ง’ แย้งกัญชาเสรีมีวาระแฝงไม่ใช่หนุนทางการแพทย์

ด้าน นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในประเด็นการออกนโยบายเสรีกัญชาว่า วิดีโอหาเสียงของ อนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่ระบุว่า กัญชาสามารถใช้เสพเพื่อสันทนาการ และทำเป็นอาหารกินได้นั้น ไม่่ใช่การสนับสนุนเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์อย่างแน่นอน 

นพ.วาโย กล่าวต่อว่า การใช้ประโยชน์ของกัญชาในทางการแพทย์นั้น ที่กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขประกาศว่า มีประโยชน์ทางการแพทย์ต่อโรคในกลุ่มประสาท และอายุรแพทย์ ซึ่งขัดแย้งกับแถลงการณ์ของสมาคมประสาทอายุรแพทย์ที่ระบุว่า ไม่มีหลักฐานงานวิจัยรักษาโรคตามที่กล่าวอ้าง แม้จะมีการอนุโลมจากแพทยสภาให้ใช้ได้ตามปริมาณที่กำหนดแล้วก็ตาม และห้ามใช้เป็นยาหลักในการรักษา 

โดย นพ.วาโย กล่าวว่า แม้จะมีงานวิจัยอ้างถึงโอกาสการติดกัญชาที่มีน้อยกว่าสารเสพติดชนิดอื่นเช่น เหล้า และบุหรี่ แต่อย่าลืมว่า ในงานวิจัยมักจะมีข้อโต้แย้งในตัวของมันเองเสมอ และได้แสดงความเป็นกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากกัญชาต่อเด็กที่มีโอกาสได้รับกัญชามือสอง ที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเด็ก และเยาวชนในระยะยาวอย่างมาก 

ขณะที่สถานะทางกฎหมายกัญชาในไทยระบุว่า กัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษตั้งแต่ปี 2477 จนกระทั่งปี 2562 ก่อนที่ อนุทิน จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และมีการออกประกาศให้มีการใช้กัญชาในทางการแพทย์ได้ ดังนั้น อนุทิน ไม่ใช่ผู้เริ่มนโยบายกัญชาทางการแพทย์ แต่วันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศให้กัญชาพ้นจากสภาพยาเสพติดก่อนจะประกาศให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุมในวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนไทยฯ มาตรา 46 ระบุว่า ห้ามไม่ให้มีการวิจัย ส่งออก จำหน่าย และแปรรูปเพื่อการค้าโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งไม่เคยมีการประกาศให้ประชาชนขอใบอนุญาต โดยต้องส่งแผนที่ถิ่นกำเนิดของสมุนไพรตามระบบนิเวศน์ และมีข้อตกลงระหว่างนายทะเบียนว่าจะปลูกทดแทนถิ่นกำเนินของสมุนไพรนั้นๆ ซึ่งขัดต่อข้อตกลงระหว่างประเทศ Single Convention On Nacrotic Drug ที่ประเทศไทยเข้าร่วมเมื่อปี 2518 ที่ระบุว่า หากประเทศภาคีจะปลูกกัญชาได้ต้องตั้งองค์กรสถาบันกัญชาแห่งชาติ และหากละเมิดข้อตกลง สมาชิกที่เหลือก็สามารถมีมาตรการปิดกั้นการนำเข้าส่งออกได้ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก 

นพ.วาโย เสริมว่า การอ้างว่ากฎหมายออกไม่ทันนั้น ทำให้เกิดสุญญากาศทางกฎหมายจริงหรือไม่ พร้อมทั้งได้มีการแจงรายละเอียดถึงการการจงจงใจให้เกิดสูญญากาศทางกฎหมาย เนื่องจากมีการส่งร่างพิจารณากฎหมายที่จะปลดล็อกกัญชาในช่วงใกล้ปิดสมัยประชุมสภาฯ ซึ่งทราบอยู่แล้วว่าพ.ร.บ.กัญชา กัญชง นั้น จะออกไม่ทันวันปลดล็อกกัญชา และได้ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมจึงไม่ออกประกาศกระทรวงชั่วคราวมาควบคุมก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง