ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ภาพรวมการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เมื่อวันที่ 17-18 ก.พ.ที่ผ่านมา คำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามโดยใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ชี้แจงด้วยข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะพล.อ.ประยุทธ์ เตรียมเนื้อหามาชี้แจงก่อนที่จะได้ฟังประเด็นซักถามของฝ่ายค้าน ดังนั้นในหลายคำชี้แจงจึงเป็นคำตอบที่ไม่มีประโยชน์ต่อประชาชน  

อย่างกรณีข้อซักถามของฝ่ายค้านเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความยากจน ที่ประชาชนประสบอยู่ พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่าการแก้ปัญหาความยากจน เป็นปัญหาระดับบุคคล ต้องแก้โดยลงรายละเอียด เป็นการตอบโดยที่ไม่มีความรู้และไม่สนในข้อเท็จจริง เพราะไม่ใช่เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากประชาชน ปัญหาความยากจนแก้ไขได้ด้วยนโยบายของรัฐที่ดี และโครงสร้างทางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาลที่เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ เป็นเอกภาพอันหนึ่งอันเดียวกัน 

เพราะเมื่อทุกพรรคมีเป้าหมายเดียวกันมีความเห็นสอดคล้องกันแล้ว ย่อมจะทำให้นโยบายที่ดีขับเคลื่อนไปแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ในทุกด้าน หรือกรณีที่เกี่ยวกับบริษัทประกันชีวิตหลายแห่งที่ถือหุ้นโดยเจ้าสัวใหญ่ ปิดกิจการโดยปัดความรับผิดชอบประชาชนที่ซื้อประกันโควิด เจอ จ่าย จบ พล.อ.ประยุทธ์ หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเลือกที่จะเมินเฉยต่อปัญหา ไม่มีการชี้แจงหรือหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนที่ประสบปัญหาอยู่

แพง จน พัง ทั้งแผ่นดิน

พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านยืนยันว่า สิ่งที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ซักถาม และมีข้อเสนอไปนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นคำถามที่ชี้เป้าไปที่พล.อ.ประยุทธ์ทั้งสิ้น เพราะพล.อ.ประยุทธ์คือศูนย์กลางของปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เป็นผู้นำที่ควบรวมอำนาจเบ็ดเสร็จ เป็นประธานนั่งหัวโต๊ะในคณะทำงานหลายคณะ เกือบทุกกระทรวง แต่ไม่มีความสามารถในการบริหารจัดการและสั่งการได้ สร้างความเสียหายทำประเทศแพง จน พัง ทั้งแผ่นดิน

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ไปพรรคร่วมฝ่ายค้านผนึกพลังกันเพื่อต่อสู้กับ “ปรปักษ์” ของประชาชน คือรัฐบาลและองคาพยพ ที่สร้างความล้มเหลวทุกหย่อมหญ้า ประเทศชาติเป็นหนี้ท่วมหัว ประชาชนเอาตัวไม่รอด 

ธีรรัตน์ กล่าวอีกว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรและการประชุมร่วมรัฐสภา ในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีการนำเสนอปัญหาต่างๆ จากพื้นที่เพื่อให้สภาผู้แทนราษฏรได้รับทราบและนำไปแก้ปัญหา ขณะที่การประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 24-25 ก.พ.65 เพื่อพิจารณาพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งมีร่างกฎหมายลูกฉบับของพรรคเพื่อไทยด้วย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระบวนการพิจารณาจะเป็นไปได้ด้วยดี  ยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการผลักดันอย่างเต็มที่ หวังเปิดทางให้เกิดการเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อคืนอำนาจอธิปไตยที่แท้จริงให้กลับมาเป็นของประชาชนตามวิถีปกติที่ควรจะเป็นมาตั้งแต่ต้น

“พล.อ.ประยุทธ์ ควรมีความละอายแก่ใจบ้าง ที่ประชาชน สภาผู้แทนราษฎรไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน หรือแม้แต่ฝ่ายของรัฐบาลเอง หนีไปไกลจากท่าน ประชาชนและฝ่ายค้านร่วมกันขับไล่ให้ท่านพ้นไปจากตำแหน่งนับครั้งไม่ถ้วน แต่ท่านยังนิ่งเฉย ท่านเป็นบุคคลที่มีความอดทนสูงมาก แต่เป็นเรื่องที่ไม่น่ายกย่อง หากเป็นคนอื่นที่มาจากประชาชน ต้องฟังเสียงประชาชนมากกว่านี้ แต่ท่านไม่ใช่ ก็อย่าหวังโอกาสใดๆ ที่จะได้รับจากประชาชนอีก” ธีรรัตน์ กล่าว